“รมว.ดีอี” ยัน ยังไม่มีหน่วยงานรัฐโดนไวรัส “วันนาคราย” ระบุ ไทยป้องกันได้ทันท่วงที แนะปชช. อัพเดตวินโดว์ พร้อมระวังอีเมลแปลกปลอม แจง พ.ร.บ.มั่นคงไซเบอร์ ไม่มีเจตนาล้วงข้อมูล เมื่อเวลา 08.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการพิจารณาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านสื่อสารมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เสนอให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้มาตรา 44 แต่งตั้งคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กปช.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ระหว่างที่ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. … ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จว่า ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน เพราะเป็นเรื่องที่เราจะต้องคุ้มครองสังคม การที่จะคุ้มครองจะต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์ โดยดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ส่วนที่มีความกังวลว่าเจ้าหน้าที่จะล้วงข้อมูลได้นั้น คงไม่เกี่ยว เนื่องจากเป็นเรื่องของการคุ้มครองป้องกันฐานข้อมูลทั้งในภาครัฐและเอกชน และข้อมูลต่างๆ ของประชาชน ยืนยันว่าเรากำลังทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ของสังคม ขออย่ากังวล สิ่งที่เราทำไม่เข้าข่ายล้วงข้อมูล แต่เป็นการประกาศให้เจ้าของข้อมูลช่วยเหลือตัวเอง นายพิเชฐ กล่าวว่า ส่วนกรณีมัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่มีชื่อว่า วันนาคราย (WannaCry) แพร่ระบาดในหลายประเทศนั้น ขณะนี้สถานการณ์ทั่วโลกบรรเทาลงแล้ว แต่ยังต้องมีการดูแลและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยกระทรวงดิจิทัลฯ ได้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง มีการประสานไปยังหน่วยงานหลักที่มีการดูแลโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเงิน การคลัง สาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา อุตสาหกรรม อย่างใกล้ชิด หลักสำคัญคือ ต้องป้องกันตัวเองขณะที่เชื้อยังมาไม่ถึง โดยต้องอัพเดตระบบปฏิบัติการที่เรียกว่า โอเอส เพราะมัลแวร์ดังกล่าวจะวิ่งผ่านระบบวินโดว์เข้ามาในอีเมล มาในรูปแบบของจดหมายพ่วง ขอแนะนำว่า ถ้ามีอีเมลแปลกปลอมไม่ควรรีบเปิด ส่วนคนที่ใช้ระบบวินโดว์แบบเก่าขอให้รีบอัพเดต ขณะที่บางหน่วยงานคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะมีความเชื่อมโยงกัน ขอให้ปิดกั้นไม่ให้มีความเชื่อมโยงกัน เนื่องจากไวรัสชนิดนี้แพร่เร็วมาก รวมถึงการเชื่อมโยงภายนอกองค์กรขอให้ระมัดระวัง รมว.ดิจิทัลฯ กล่าวว่า 2 – 3 วันที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศและติดต่อประสานงานไปยังหลายประเทศ พบว่า ของไทยได้ผลค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศ แต่ที่เราเป็นห่วงคือ แม้จะสกัดในจุดนี้จะไปโผล่อีกจุดหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีข้อขัดข้องหรือสงสัยจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำช่วยเหลือแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง ขอให้มั่นใจได้ว่าเราทำเต็มที่ หวังว่าจะไม่มีการแพร่ระบาดในประเทศไทย หรืออาจมีบ้าง แต่ไม่อันตรายมากนัก เนื่องจากเรามีการป้องกันอย่างทันท่วงที และขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า ระบบฐานข้อมูลของหน่วยงานรัฐโดนไวรัสตัวนี้ ถ้าจะมีคงเป็นเล็กๆ น้อยๆ ที่หน่วยงานจัดการเองได้