ผู้สื่อข่าวแจ้งว่า สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีในขณะนี้ยิ่งตึงเครียดไปมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเกาหลีเหนือ ได้ทำการทดสอบยิงขีปนาวุธลูกใหม่อีกครั้ง โดยในครั้งนี้ทางกองทัพเกาหลีเหนือกล่าวอ้างว่าเป็นขีปนาวุธศักยภาพสูงรุ่นใหม่ที่ไม่ใช่แค่สามารถยิงไกลได้เท่านั้น แต่ยังสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ได้อีกด้วย การยิงขีปนาวุธดังกล่าวมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม ไม่กี่วันหลังจากนายมุนแจอินเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ โดยขีปานาวุธลูกนี้ถูกยิงขึ้นจากชายฝั่งเกาหลีเหนือ พุ่งขึ้นแตะชั้นบรรยากาศที่ความสูง 2,000 กิโลเมตร แล้วหักหัวพุ่งลงสู่ทะเลทางตะวันตกของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดที่ห่างจากชายแดนรัสเซียเพียง 60 ไมล์เท่านั้น (98 กิโลเมตร) โดยที่ทราบกันดีว่าตลอดช่วงต้นปีที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบยิงขีปนาวุธมาแล้วหายครั้ง แต่ในครั้งนี้ได้สร้างความกังวลให้กับหลายประเทศมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากทางการเกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศว่าขีปนาวุธลูกล่าสุดนี้เพิ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ มันมีชื่อว่า ฮวาซอง-12 (Hwasong-12) เป็นขีปนาวุธพิสัยระดับกลางถึงไกล สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูง และที่สำคัญคือสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ได้ สำหรับ นายดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำสำนักประธานาธิบดีแห่งรัสเซียได้ออกมาแถลงว่า ประธานาธิบวลาดิมีร์ ปูติน ได้พบปะหารือกับ นายสีจิ้นผิง ผู้นำสูงสุดของประเทศจีนเพื่อหามาตรการตอบโต้กับท่าทีอันยั่วยุนี้แล้ว ในขณะเดียวกันสหรัฐฯ และญี่ปุ่นก็ได้เรียกร้องให้มีการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อรับมือการสถานการณ์ และถึงแม้ว่าเกาหลีเหนือจะออกมาประกาศว่าสามารถผลิตขีปนาวุธที่สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ แต่มันก็ไม่ปรากฏชัดเจนว่าพวกเขาจะสามารถพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ให้เล็กพอที่จะติดตั้งบนขีปนาวุธรุ่นนี้ได้ แต่ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญก็ได้ออกมาวิเคราะห์ว่า ถ้าเกาหลีเหนือทำการยิงขีปนาวุธตามแบบหลักการทางยุทธศาสตร์จริง ๆ ขีปนาวุธของพวกเขาจะสามารถเดินทางเป็นระยะไกลได้มากกว่า 4,000 กิโลเมตร