กรมวิชาการเกษตร แจ้งบริษัทส่งออกทุเรียนแจงเหตุผู้บริโภคอ้างพบทุเรียนอ่อนในญี่ปุ่น เผยพบเป็นทุเรียนแก่แต่ยังไม่สุก ชี้ต้องสร้างการรับรู้วิธีสังเกตทุเรียนสุก แก่ พร้อมรับประทาน แก่ผู้นำเข้าและผู้บริโภคแดนปลาดิบ นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากกรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊กโพสต์ภาพทุเรียนส่งออกจากไทยไปประเทศญี่ปุ่นพบทุเรียนอ่อนจำนวนมากจนห้างที่นำไปขายโดนลูกค้าตำหนิและขอคืนเงินนั้น กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช กรมวิชาการเกษตร ได้ตรวจสอบรหัสของผู้ส่งออกตามที่ปรากฏเป็นข่าว พบว่าเป็นสินค้าของบริษัทรายหนึ่งจึงได้ทำหนังสือแจ้งเตือนเพื่อให้บริษัทที่ส่งออกทุเรียนล็อตดังกล่าว ปรับปรุงระบบการผลิตและการควบคุมคุณภาพให้เป็นไปตามประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจดทะเบียน เป็นผู้ส่งผลทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2556 โดยควบคุมคุณภาพของผลทุเรียนสดตามที่กำหนดในประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง มาตรฐานทุเรียนของประเทศไทย พ.ศ.2545 ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการปฏิเสธสินค้าในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการนำเข้าผลผลิตทางการเกษตรจากประเทศไทยทั้งหมดในภาพรวม และมีผลต่อการพิจารณาพักใช้ หรือเพิกถอนหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกทุเรียนสดไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งกรมวิชาการเกษตร ได้ขอให้บริษัทพิจารณาแก้ไขปรับปรุงระบบการผลิตทุเรียนสดให้ได้คุณภาพตามข้อกำหนด พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวกลับมาให้กรมวิชาการเกษตรทราบด้วย “กรณีที่ได้รับแจ้งจากผู้ซื้อทุเรียนสดจากห้างสรรพสินค้าในญี่ปุ่น พบว่าเป็นทุเรียนแก่ที่ยังดิบอยู่ ต้องรอให้สุกก่อนโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3-5 วันจึงจะรับประทานได้ ซึ่งต้องมีการสร้างการรับรู้วิธีการสังเกตลักษณะความสุกแก่ของทุเรียนให้แก่ผู้ประกอบการนำเข้าทุเรียนจากประเทศไทยและผู้บริโภคในประเทศญี่ปุ่น โดยวิธีการสังเกตที่ง่ายสุดคือ หากทุเรียนสุกพร้อมที่จะรับประทานจะเริ่มมีกลิ่นออกมาจากผลของทุเรียน อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาภาพลักษณ์การส่งออกผลไม้ของไทยซึ่งไม่เฉพาะเพียงแค่ทุเรียน ขอให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเพิ่มความระมัดระวังในการคัดคุณภาพของสินค้าและปฏิบัติตามเงื่อนไขการนำเข้าของประเทศคู่ค้าอย่างเคร่งครัดด้วย” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า การส่งออกทุเรียนผลสดไปนอกราชอาณาจักรผู้ส่งออกต้องยื่นคำขอและจดทะเบียนผู้ส่งออกกับกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช กรมวิชาการเกษตร เพื่อขอรับใบรับรองสุขอนามัยพืชแนบไปกับสินค้าก่อนส่งออก โดยเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืช กรมวิชาการเกษตร จะทำการตรวจสอบศัตรูพืชทุเรียนที่โรงคัดบรรจุของผู้ประกอบการส่งออกที่ได้รับการรับรอง GMP ซึ่งเป็นสถานที่รับผลทุเรียนสดและคัดผลทุเรียน ทั้งนี้ในปี 2559 ประเทศไทยส่งออกทุเรียนผลสดไปญี่ปุ่นปริมาณ 89,415 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ารวม 8,139,166 บาท ปี 2560 (เมษายน-พฤษภาคม) ปริมาณ 26,765 กิโลกรัม รวมมูลค่า 3,690,301 บาท