“กองทุนฟื้นฟูฯ” รับหนี้เกษตรกร คนท. 2 พันราย วงเงิน 400 ล้านบาทภายในไตรมาสนี้ เชื่อมือทหารเป็นตัวกลาง พร้อมเคลียร์สถาบันการเงิน ไม่ยึดที่ดินชาวนา เชียร์”บิ๊กตู่”ใช้มาตรา 44 ยุบ 3กองทุนแก้ปัญหาให้จบยุค คสช. ชี้ถ้ารัฐบาลนี้ทำไม่ได้ก็ไม่มีใครทำได้ ที่กองทัพภาคที่ 1 เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ธรรมนูญ วิถี รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวก่อนการประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของของเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย (คนท.) ว่าเป็นการติดตามแก้ไขปัญหาตามนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน โดยผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้ทหารเข้าไปประสานงานกับสำนักงานคณะกรมการกองทุนฟื้นฟูแลพัฒนาเกษตรกร กับ กลุ่มลูกหนี้ โดยได้เชิญตัวแทนกองทุนฟื้นฟูฯมาให้แนวทางกับกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ( กกล.รส.) เพื่อหาแนวทางปฏิบัติต่อกลุ่มลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน นายศวัจน์ ชัยวัฒนสิริกุล อดีตรองกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟู กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณรัฐบาล และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่ยังล่าช้า ซึ่งอาจส่งผลให้ชาวบ้านจะสูญเสียที่ดินที่นำไปจำนองไว้กับสถาบันการเงิน ดังนั้นทางทหารก็ให้มาหาแนวทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหาชาวบ้านว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยมาตรการฟ้องร้อง ยึด ขับไล่ออกจากที่ดิน คงต้องขอความร่วมมือกับธนาคาร โดยใช้วิธีพูดคุยหารือกันต่อไปในอนาคต ส่วนฝ่าย คณะกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่ทำหน้าที่รับซื้อหนี้จากสถาบันการเงินก็รับปากว่าสิ่งใดที่สามารถดำเนินการได้ ก็จะดำเนินการเลยทันทีเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งลูกหนี้ที่เข้าข่ายมีจำนวนกว่า 2,000 ราย มูลค่าหนี้ประมาณ 400 ล้านบาท “เราจะช่วยพี่น้องไม่ให้ถูกยึดที่ดิน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ก็ขอบคุณรัฐบาล และ คสช. ที่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา พวกเราพอใจในส่วนนี้ สำหรับอนาคตข้างหน้าจะทำอย่างไรทาง คสช.จะช่วยประสานงานให้ แต่ชาวบ้านจะไม่สูญเสียที่ดิน สิ่งใดที่ทำได้ก็ทำเลย จะได้รักษาชีวิตเกษตรกรประเทศไทยคงอยู่ต่อไป” เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลประกาศใช้ ม.44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ยุบ 3 คณะกรรมกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และตั้ง กรรมการเฉพาะกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกรจะทำให้แก้ไขปัญหาเร็วขึ้นหรือไม่ นายศวัจน์ ตนเข้าใจว่าน่าจะต้องใช้ เพราะการจะขับเคลื่อนของกองทุนต้องมีคณะกรรมการไปออกเป็นมติ สำนักงานก็ไปดำเนินการ เพราะไม่มีอะไรที่จะแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วขึ้นได้เท่านี้ ยุคนี้ถ้าแก้ไขไม่ได้ยุคอื่นก็ลำบาก ตนรู้สึกสบายใจ และ ดีใจ แม้สถานการณ์ตอนนี้จะเห็นว่าเม็ดเงินเรามีน้อย แต่ถ้าเราออกเป็นนโยบาย ขอความร่วมมือจากด้านต่างๆ ทางทหารก็ทำได้ดี น่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ แต่ในส่วนที่ทำได้ทางสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ก็จะทำก่อน เลยน่าจะเห็นผลในไตรมาสนี้