เวลาที่ประเทศใดเปลี่ยนผู้นำใหม่ นอกเหนือจากเจ้าตัวที่จะตกเป็นเป้าความสนใจแล้ว สื่อก็มักจะจับตาไปยังหลังบ้าน หรือภริยาของพวกเขาด้วยเสมอ อย่างปรากฏการณ์ที่ผ่านมาของคู่ของแอมานุแอล มาครง ผู้ชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศส กับบรีฌิต ทรอเญอร์ มาครง แต่คู่นี้ถูกโฟกัสประเด็นอายุที่ห่างกันกว่า 20 ปี กับเส้นทางรักที่สปาร์คเมื่อครั้งยังเป็นครูสาว กับลูกศิษย์วัยละอ่อนเสียมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ถ้ายิ่งสตรีข้างกายผู้นำโลกคนไหนมีรูปเป็นทรัพย์ จะรวยสติปัญญาหรือไม่ อันนั้นมาทีหลัง เพราะหน้าตาเป็นใบเบิกทางมาก่อนแล้ว พวกเธอก็จะครองใจสื่อ และมีแนวโน้มครองใจคนได้ไม่ยาก ยิ่งถ้าหากฉลาดเฉลียวด้วยแล้ว ก็จะกลายเป็นกิ่งทองใบหยก ใครจะดึงอย่างไรก็ไม่มีทางตกจากที่สูง วันนี้เราจึงได้รวบรวมสุภาพสตรีสุดฮ็อตข้างกายผู้นำโลกในยุคปัจจุบันมาให้ชมกันให้เพลินตาเลย
๐ เมลาเนีย ทรัมป์ : สหรัฐฯ
ลิสต์ของเราจะไม่มีทางสมบูรณ์ไปได้เลยหากขาดชื่อของเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ภริยาคนปัจจุบันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ นาทีนี้เราอย่าไปโฟกัสที่สามีเธอซึ่งน่ากลัวกระแสยี้จะมีเสียมากกว่า สำหรับเมลาเนีย อาจจะมีคนที่ทั้งชอบ และไม่ชอบเธอ บ้างก็ว่าเธอเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งที่เป็นที่นิยมน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ทำเนียบขาว แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอสวย เธอเซ็กซี่ แม้จะไม่ใช่สาวรุ่นแถมลูกหนึ่งแล้ว แต่ก็นะเธอเป็นนางแบบก่อน ดังนั้นความฮ็อต และสมาร์ทไม่ต้องหาอะไรมาการันตีเลย
๐ ราเนีย อัล อับดุลเลาะฮ์ : จอร์แดน
ก่อนอื่นสตรีผู้นี้เธอไม่ใช่แค่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง แต่ราเนีย อัล อับดุลเลาะฮ์ เธอเป็นถึงราชินีแห่งจอร์แดน เข้าพิธีอภิเสกสมรสกับกษัติริย์อับดุลลาห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนเมื่อปี 2542 และได้กลายเป็นสตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุด ได้รับความเคารพที่สุดในประเทศมานานถึง 18 ปีแล้ว ไม่เพียงแต่ทรงสิริโฉม แต่การที่ทรงงานด้านการศึกษา สาธารณสุข และการส่งเสริมชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้ทรงครองใจคนได้ไม่ยาก และยังทรงใช้สื่อสังคมออนไลน์ทั้งเฟสบุค ยูทิวบ์ ทวิตเตอร์ และอินสตราแกรมทำให้คนสามารถรู้จักพระองค์ได้มากขึ้นอีกด้วย
๐ แองเจลิกา ริเวรา : เม็กซิโก
ในขณะที่ประธานธิบดีโดนัล ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ชวนเม็กซิโกทะเลาะเรื่องสร้างกำแพงตลอดพรมแดน 2 ประเทศ และภริยาของเขาก็อยู่ในลิสต์นี้แล้ว ทางฝั่งเม็กซิโก ซึ่งมีประธานาธิบดีเอ็นริเก เปนา นิเอโต เป็นผู้นำก็ไม่น้อยหน้า ขอส่งแองเจลินา ริเวรา เข้าประกวด เธอกลายมาเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งตั้งแต่ปี 2555 เธอดำรงตำแหน่งประธานองค์กรเพื่อการพัฒนาครอบครัวแบบบูรณาการแห่งชาติ ทำงานเพื่อช่วยเหลือคนจนทั่วประเทศ สวยด้วย ใจดีด้วย แต่บางคนที่เมาท์ว่าเธอเฟคนะ เพราะเคยเป็นนักแสดง นักร้อง นางแบบมาก่อน ก็เลยถูกมองว่าเรื่องสร้างภาพสำหรับเธอหน่ะง่ายนิดเดียว
๐ ชาร์ลีน วิตต์สต็อก : โมนาโก
ลืมเรื่องเจ้าหญิงในนิทานดิสนีย์ไปได้เลย เพราะเรามีชาร์ลีน วิตต์สต็อกอยู่แล้ว เธอเกิดในซิมบับเว ก่อนจะมาเติบโตในแอฟริกาใต้ เป็นนักว่ายน้ำอาชีพ ตัวแทนทีมชาติแอฟริกาใต้ เข้าแข่งขันซิดนีย์ โอลิมปิก ปี 2543 สวยด้วย และมีความสามารถด้วย ไปแปลกอะไรที่เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก จะตกหลุมรักเธอ และสานสัมพันธ์กัน จนในที่สุดเธอได้กลายมาเป็นเจ้าหญิงแห่งโมนาโก ปัจจุบันเธอให้กำเนิดรัชทายาทแก่ราชวงศ์ทีเดียวสองพระองค์เลย เป็นฝาแฝดชายหญิงไปเมื่อสองปีก่อน
๐ เลติเซีย ออร์ติซ : สเปน
คนนี้ก็เช่นเดียวกัน จากสามัญชนสู่ราชินีแห่งสเปน เลติเซีย ออร์ติซ โรคาโซลาโน เป็นอดีตนักข่าว และผู้ประกาศข่าว ก่อนที่จะมาสมรสกับเจ้าชายเฟลิเป แห่งสเปน ซึ่งปแจจุบันขึ้นครองราชย์ต่อจากกษัตริย์ฆวน คาร์ลอส พระบิดา ทำให้เจ้าหญิงเลติเซีย กลายมาเป็นราชินี ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากษัตริย์สเปนหลงใหลอะไรในตัวพระองค์ นอกจากความสวยที่เปล่งประกายเด่นชัดแล้ว ยังทรงผู้หญิงสมัยใหม่ ที่มีความคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง มีความเป็นตัวของตัวเอง เป็นสไตล์ที่ผู้ชายทุกคนจะตกหลุมรักนั่นเอง
๐ ริ โซล จู : เกาหลีเหนือ
แม้ประธานาธิบดีคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนืออาจจะไม่ได้หล่อเหลาสไตล์โอปป้าแบบที่สาวไทยคลั่งไคล้ ก็ไม่ได้แปลว่า เราจะประเมินสตรีข้างกายเขาต่ำกว่ามาตรฐานได้ เพราะเมื่อดูภริยาของเขาแล้ว ต้องบอกเลยว่า ริ โซล - จู หน่ะสวยจริงๆ แม้หลังๆ มาจะไม่ได้ออกสื่อบ่อยนัก แต่ภาพที่ปรากฎออกมาทำให้ไม่สามารถตัดเธอออกจากลิสต์นี้ได้เลย ข้อมูลของเธอค่อนข้างเป็นความลับ เหมือนว่าเธอจะเคยเป็นนักร้องมาก่อนจะมาสมรสกับคิมน้อย เส้นทางความรักขงทั้งคู่ก็ไม่ได้แปลกอะไรแค่ฝ่ายชายเห็นฝ่ายหญิง แล้วก็เลยตกหลุมรักเท่านั้นเอง แต่อีกฝ่ายเขารู้สึกแบบเดียวกันหรือไม่อันนี้ก็ยังไม่มีใครหาข้อเท็จจริงได้
๐ เจตซุน เพมา : ภูฎาน
ปิดท้ายกันที่ราชินีเจตซุน เพมา ภริยาของกษัตริย์จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฎาน เข้าพิธีอภิเสกสมรสไปเมื่อปี 2554 เป็นราชินีตั้งแต่อายุ 21 ปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทรงเป็นคนที่พิเศษขนาดไหน ไม่ใช่เฉพาะพระสิริโฉม แต่เป็นพระอุปนิสัย และน้ำพระทัยของพระองค์ที่ทำให้กษัตริย์หนุ่มตกหลุมรัก และมั่นคงกับเธอตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ พิสูจน์ได้จากที่ตรัสให้สัมภาษณ์ถึงราชินีของพระองค์ว่า "ตอนที่เธอยังเด็กเธออบอุ่น มีเมตตาในหัวใจ สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเพิ่มพูนขึ้นตามอายุ และประสบการณ์ของเธอ เพื่อจะทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ" นั่นเอง
ลิสต์ของเราจะไม่มีทางสมบูรณ์ไปได้เลยหากขาดชื่อของเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ภริยาคนปัจจุบันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ นาทีนี้เราอย่าไปโฟกัสที่สามีเธอซึ่งน่ากลัวกระแสยี้จะมีเสียมากกว่า สำหรับเมลาเนีย อาจจะมีคนที่ทั้งชอบ และไม่ชอบเธอ บ้างก็ว่าเธอเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งที่เป็นที่นิยมน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ทำเนียบขาว แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอสวย เธอเซ็กซี่ แม้จะไม่ใช่สาวรุ่นแถมลูกหนึ่งแล้ว แต่ก็นะเธอเป็นนางแบบก่อน ดังนั้นความฮ็อต และสมาร์ทไม่ต้องหาอะไรมาการันตีเลย
๐ ราเนีย อัล อับดุลเลาะฮ์ : จอร์แดน
ก่อนอื่นสตรีผู้นี้เธอไม่ใช่แค่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง แต่ราเนีย อัล อับดุลเลาะฮ์ เธอเป็นถึงราชินีแห่งจอร์แดน เข้าพิธีอภิเสกสมรสกับกษัติริย์อับดุลลาห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนเมื่อปี 2542 และได้กลายเป็นสตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุด ได้รับความเคารพที่สุดในประเทศมานานถึง 18 ปีแล้ว ไม่เพียงแต่ทรงสิริโฉม แต่การที่ทรงงานด้านการศึกษา สาธารณสุข และการส่งเสริมชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้ทรงครองใจคนได้ไม่ยาก และยังทรงใช้สื่อสังคมออนไลน์ทั้งเฟสบุค ยูทิวบ์ ทวิตเตอร์ และอินสตราแกรมทำให้คนสามารถรู้จักพระองค์ได้มากขึ้นอีกด้วย
๐ แองเจลิกา ริเวรา : เม็กซิโก
ในขณะที่ประธานธิบดีโดนัล ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ชวนเม็กซิโกทะเลาะเรื่องสร้างกำแพงตลอดพรมแดน 2 ประเทศ และภริยาของเขาก็อยู่ในลิสต์นี้แล้ว ทางฝั่งเม็กซิโก ซึ่งมีประธานาธิบดีเอ็นริเก เปนา นิเอโต เป็นผู้นำก็ไม่น้อยหน้า ขอส่งแองเจลินา ริเวรา เข้าประกวด เธอกลายมาเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งตั้งแต่ปี 2555 เธอดำรงตำแหน่งประธานองค์กรเพื่อการพัฒนาครอบครัวแบบบูรณาการแห่งชาติ ทำงานเพื่อช่วยเหลือคนจนทั่วประเทศ สวยด้วย ใจดีด้วย แต่บางคนที่เมาท์ว่าเธอเฟคนะ เพราะเคยเป็นนักแสดง นักร้อง นางแบบมาก่อน ก็เลยถูกมองว่าเรื่องสร้างภาพสำหรับเธอหน่ะง่ายนิดเดียว
๐ ชาร์ลีน วิตต์สต็อก : โมนาโก
ลืมเรื่องเจ้าหญิงในนิทานดิสนีย์ไปได้เลย เพราะเรามีชาร์ลีน วิตต์สต็อกอยู่แล้ว เธอเกิดในซิมบับเว ก่อนจะมาเติบโตในแอฟริกาใต้ เป็นนักว่ายน้ำอาชีพ ตัวแทนทีมชาติแอฟริกาใต้ เข้าแข่งขันซิดนีย์ โอลิมปิก ปี 2543 สวยด้วย และมีความสามารถด้วย ไปแปลกอะไรที่เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก จะตกหลุมรักเธอ และสานสัมพันธ์กัน จนในที่สุดเธอได้กลายมาเป็นเจ้าหญิงแห่งโมนาโก ปัจจุบันเธอให้กำเนิดรัชทายาทแก่ราชวงศ์ทีเดียวสองพระองค์เลย เป็นฝาแฝดชายหญิงไปเมื่อสองปีก่อน
๐ เลติเซีย ออร์ติซ : สเปน
คนนี้ก็เช่นเดียวกัน จากสามัญชนสู่ราชินีแห่งสเปน เลติเซีย ออร์ติซ โรคาโซลาโน เป็นอดีตนักข่าว และผู้ประกาศข่าว ก่อนที่จะมาสมรสกับเจ้าชายเฟลิเป แห่งสเปน ซึ่งปแจจุบันขึ้นครองราชย์ต่อจากกษัตริย์ฆวน คาร์ลอส พระบิดา ทำให้เจ้าหญิงเลติเซีย กลายมาเป็นราชินี ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากษัตริย์สเปนหลงใหลอะไรในตัวพระองค์ นอกจากความสวยที่เปล่งประกายเด่นชัดแล้ว ยังทรงผู้หญิงสมัยใหม่ ที่มีความคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง มีความเป็นตัวของตัวเอง เป็นสไตล์ที่ผู้ชายทุกคนจะตกหลุมรักนั่นเอง
๐ ริ โซล จู : เกาหลีเหนือ
แม้ประธานาธิบดีคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนืออาจจะไม่ได้หล่อเหลาสไตล์โอปป้าแบบที่สาวไทยคลั่งไคล้ ก็ไม่ได้แปลว่า เราจะประเมินสตรีข้างกายเขาต่ำกว่ามาตรฐานได้ เพราะเมื่อดูภริยาของเขาแล้ว ต้องบอกเลยว่า ริ โซล - จู หน่ะสวยจริงๆ แม้หลังๆ มาจะไม่ได้ออกสื่อบ่อยนัก แต่ภาพที่ปรากฎออกมาทำให้ไม่สามารถตัดเธอออกจากลิสต์นี้ได้เลย ข้อมูลของเธอค่อนข้างเป็นความลับ เหมือนว่าเธอจะเคยเป็นนักร้องมาก่อนจะมาสมรสกับคิมน้อย เส้นทางความรักขงทั้งคู่ก็ไม่ได้แปลกอะไรแค่ฝ่ายชายเห็นฝ่ายหญิง แล้วก็เลยตกหลุมรักเท่านั้นเอง แต่อีกฝ่ายเขารู้สึกแบบเดียวกันหรือไม่อันนี้ก็ยังไม่มีใครหาข้อเท็จจริงได้
๐ เจตซุน เพมา : ภูฎาน
ปิดท้ายกันที่ราชินีเจตซุน เพมา ภริยาของกษัตริย์จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฎาน เข้าพิธีอภิเสกสมรสไปเมื่อปี 2554 เป็นราชินีตั้งแต่อายุ 21 ปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทรงเป็นคนที่พิเศษขนาดไหน ไม่ใช่เฉพาะพระสิริโฉม แต่เป็นพระอุปนิสัย และน้ำพระทัยของพระองค์ที่ทำให้กษัตริย์หนุ่มตกหลุมรัก และมั่นคงกับเธอตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ พิสูจน์ได้จากที่ตรัสให้สัมภาษณ์ถึงราชินีของพระองค์ว่า "ตอนที่เธอยังเด็กเธออบอุ่น มีเมตตาในหัวใจ สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเพิ่มพูนขึ้นตามอายุ และประสบการณ์ของเธอ เพื่อจะทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ" นั่นเอง