กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศเคลื่อนสู่ยุค “ทส.4.0” เปิดตัว “ระบบกระจายน้ำบาดาลพลังแสงอาทิตย์” (OVOWS) พร้อมแอพพลิเคชั่นใหม่บนมือถือ “Badan4thai” กระจายข้อมูลแหล่งน้ำบาดาลสู่ประชาชน ทั้งการค้นหาแหล่งน้ำ แผนที่น้ำบาดาลรายจังหวัด รวมทั้งการใช้ประโยชน์อื่นๆ ย้ำเป้าหมายสำคัญช่วยสนับสนุนการบริหารทรัพยากรน้ำบาดาลอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ประชาชนเข้าถึงน้ำอย่างเท่าเทียม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า รัฐบาลได้วางแผนแม่บทการพัฒนาประเทศโดยวางเป้าหมายขับเคลื่อนไปสู่ “Thailand 4.0” ซึ่งมีความมั่งคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ภายใน 20 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2560-2579) ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยมีฐานคิดหลัก คือ การมุ่งขับเคลื่อนการพัฒนาด้านต่างๆของประเทศด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจด้านการปกป้องดูแลและบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ จึงได้รับนโนยายดังกล่าวมาผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนภารกิจของหน่วยงาน โดยวางเป้าหมายก้าวไปสู่ความเป็น “ทส.4.0” ด้วยการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศให้เกิดประสิทธิภาพและความยั่งยืน โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาส่งเสริมการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด นับเป็นแนวนโยบายหนึ่งที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเล็งเห็นถึงความสำคัญ และได้มอบหมายให้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดำเนินโครงการระบบกระจายน้ำบาดาลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ OVOWS (One Village One Water Supply) โดยต่อยอดมาจากโครงการน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร ด้วยการเจาะบ่อน้ำบาดาลศักยภาพไม่ต่ำกว่า 10 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง จำนวน 1 บ่อ พร้อมกับก่อสร้างหอถังเก็บน้ำความจุ 30 ลูกบาศก์เมตร และวางระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมทั้งระบบกระจายน้ำ เพื่อรองรับการจัดหาแหล่งน้ำและกระจายน้ำในระดับไร่นาและชุมชนให้ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม “จากผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ปรากฏว่า สามารถบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่เกษตรกรรมนอกเขตชลประทานที่มีแหล่งน้ำผิวดินไม่เพียงพอ โดยเกษตรกรจะมีปริมาณน้ำต้นทุนไม่ต่ำกว่าปีละ 116,800 ลูกบาศก์เมตรต่อแห่ง ทั้งนี้ครัวเรือนได้รับประโยชน์มากกว่า 10 ครัวเรือนต่อแห่ง และพื้นที่เกษตรกรรมได้รับประโยชน์ 50-100 ไร่ต่อแห่ง” รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวต่อว่า นอกจากการพัฒนาโครงการระบบกระจายน้ำบาดาลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว กรมทรัพยากรน้ำบาดาลยังได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับโทรศัพท์มือถือ “Badan4thai” เพื่อให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการพัฒนาใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำบาดาล ได้แก่ การค้นหาบ่อน้ำบาดาล แผนที่น้ำบาดาลรายจังหวัด รวมทั้งข้อมูล ข่าวสารเรื่องน้ำบาดาล และเป็นการเพิ่มช่องทางการติดต่อ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไปมากยิ่งขึ้น “จะเห็นได้ว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก้าวไปข้างหน้าเข้าสู่ Thailand 4.0 ด้วยคุณภาพการบริการ มุ่งประสิทธิผลการดำเนินงาน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ซึ่งโครงการ OVOWS และ Badan4thai ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ความเป็น ทส. 4.0 ด้วยเช่นกัน และที่สำคัญ ยังถือว่า การดำเนินการทั้ง 2 โครงการดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะเป็นการสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลให้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงน้ำอุปโภคบริโภคได้อย่างเท่าเทียมอีกด้วย” รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าว