ทำอย่างไร จะพูดได้เต็มปากว่า “เรารักในหลวง”(จบ) สมเด็จพระพุทธาจารย์(ป.อ.ปยุตโต) ประชาชนชาวไทยได้ยินพูดกันทั่วไปว่า “เรารักในหลวง” เมื่อรักในหลวงก็คือจะพยายามทำให้สมพระราชหฤทัย โดยนัยที่ได้บรรยายมา ประชาชนจะแสดงตนชัดว่ารักพระองค์ โดยมีการแสดงออก 4 ประการที่ได้กล่าวมา ตามลำดับ กล่าวคือ 1.กตัญญู สำนึกรู้เข้าใจมองเห็นซาบซึ้งในพระคุณนานัปการที่ได้ทรงบำเพ็ญ อันสมดังพระราชปณิธานว่าจะทรงครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม 2.อัตถัญญู มีปัญญารู้คุณค่า ความหมาย เหตุผลตระหนักในความมุ่งหมาย และวัตถุประสงค์ ทั้งที่เป็นพระราชปณิธานอันเป็นข้อหลักใหญ่ และพระราชประสงค์จำเพาะของโครงการพระราชดำริหรือกิจการงานที่เกี่ยวข้องมาถึงตน 3.ปฏิบัติบูชา เมื่อรักพระองค์ จะยกย่องเทิดทูน ก็ทำอย่างที่พระสอนว่า ให้บูชาพระองค์ด้วยการปฏิบัติ โดยร่วมมือร่วมแรง ทำกิจหน้าที่ของตน เพื่อให้สำเร็จบรรลุผลมุ่งหมายจนได้ถวายความสำเร็จนั้นเป็นเครื่องบูชาพระคุณ 4.ภาวนาปธาน สุดท้าย เพื่อให้ทำได้ปฏิบัติได้อย่างนั้น จึงจะต้องไม่อยู่อย่างเรื่อยเปื่อยเฉื่อยชา แต่พยายามพัฒนาตนเองให้มีคุณสมบัติดีงาม มีศีล มีวินัย มีความเพียรพยายาม มีสติปัญญาความสามารถ ให้เป็นประชาชนที่มีคุณภาพ ผู้ได้พัฒนาแล้วอย่างดี เมื่อทำดังว่ามานี้ ความอาลัยรักภักดี ที่แสดงกันต่างๆ มากมาย จึงจะเป็นของจริงจังมีความหมาย มิใช่เป็นของเสียหายหรือสูญเปล่า ดังได้กล่าวย้ำบ่อยครั้งว่า สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจทั้งหลาย เช่นที่จั้งเป็นโครงการพระราชดำริต่างๆ มากมาย ก็เพื่อความมุ่งหมายที่มั่นแน่วเป็นหนึ่งเดียว คือเพื่อแก้ไขปัญหาบำบัดทุกข์ ทำให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน เมื่อได้ทรงเพียรพยายามแก้ไขปัญหา ทรงนำพาชาวถิ่นชาวบ้านทั่วไปในการที่จะรู้พึ่งพาช่วยตัวเองแล้ว ครั้นเสด็จฯเยือนท้องถิ่นใดๆ ทอดพรพะเนตรเห็นประชาชนเป็นอยู่ดีขึ้นพระองค์ก็ย่อมทรงชื่นชมยินดี เรียกทางธรรมว่าทรงมีมุทิตา ถ้าประชาชนคนไทยชาวถิ่นชาวบ้านจะเจริญรอยพระยุคลบาท โดยปฎิบัติมุทิตาธรรมข้อนี้ เป็นข้อเริ่มแรก ก็จะได้ชื่อว่ากระทำปฏิบัติบูชา และจะพาให้ท้องถิ่นดินแดนประเทศไทยนี้เจริญงอกงามอุดมสมบูรณ์ การเจริญมุทิตาอย่างแช่มชื่นเบาใจ ทำง่ายๆ เป็นอย่างไรชาวถิ่นชาวบ้านนั้น เมื่อใดขึ้นเขา หรือเข้าป่า มองไปเห็นต้นไม้มีลำต้นสมบูรณ์แข็แรง ใบเขียวสด ดอกสะพรั่ง มีผลดก แผ่กิ่งก้านขยายกว้างขวางร่มรื่น ได้เห็นแล้วก็มีใจยินดี ชื่นชม ตั้งใจ หวังดีขอให้ต้นไม้นี้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่ต่อไป และเจริญงอกงามยิ่งขึ้นไป แล้วนึกคิดต่อไปอยากให้มีต้นไม้ที่งอกงามสมบูรณ์อย่างนั้นมากมายทั่วแถบ ทั่วถิ่น เมื่อยังไม่มี ก็คิดว่าจะปลูกเพิ่มขึ้นขยายออกไปๆ แล้วชวนกันปลูก ช่วยกันบำรุงรักษา ส่วนการที่จะกินจะใช้ ก็ทำไปตามที่สมควรแก่เหตุผล โดยพยายามไม่ให้เป็นการรุกรานเบียดเบียนพืชพันธุ์ของธรรมชาติ การที่จะได้มุทิตานั้นก็หมายถึงว่า เมื่อได้ช่วยกันทำให้พืชพันธุ์งอกงาม แผ่นดินอุดมสมบูรณ์ดีขึ้น ทุกคนก็จะได้ชื่นชมยินดีกับชุมชนและท้องถิ่นของตนๆ นั้นเอง ที่เจริญงอกงามขึ้นมา มีความผาสุก ด้วยการปฏิบัติเพื่อเจริญมุทิตาดังกล่าวมาฉะนี้ ก็จะบันดาลให้ผืนแผ่นดินไทยอุดมสมบูรณ์ อำนวยพืชพันธุ์ธัญญาหารให้อย่างเพียงพอ ทำให้ได้อยู่ได้กินกันอย่างพอเพียง ชาวถิ่นชาวบ้านเจริญมุทิตาธรรมต่อแผ่นดินไทย โดยสามารถชื่นชมยินดีต่อท้องถิ่นที่อุดมและชุมชนที่อยู่กันดีของตนเองได้อย่างนี้ ก็จะเป็นการถวายปฏิบัติบูชา ที่จะนำพาทุกถิ่นดินแดนทั่วประเทศไทยให้เจริญพิไลสุขสมบูรณ์ สนองพระจำนงแห่งพระราชหฤทัย เมื่อปฏิบัติดังนี้ จึงควรแก่การนับการถือว่าได้บำเพ็ญบุญอุทิศถวายเป็นพระราชกุศล อย่างเยี่ยมยอดเลิศอุดม สมแก่การที่จะได้ชื่อว่ารักในหลวง ด้วยการช่วยกันสนองพระราชปณิธาน ดังได้บรรยายมา