กรณีที่กลุ่มภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ (ภตช.)นำโดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการ ภตช. ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอให้ตรวจสอบเรื่องการประกาศสรรหาเลขาธิการคุรุสภา และเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ที่ว่าอาจมีการล็อกสเปก นั้น ล่าสุดวันที่ 22 พ.ค.60 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดที่มีการร้องเรียน แต่อย่างไรก็ตาม ได้กำชับกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสรรหาเลขาธิการคุรุสภา และเลขาธิการ สกสค. ให้ดำเนินการตามประกาศคำสั่งหัวหน้า คสช. อย่างเคร่งครัด และโปร่งใส ห้ามผิด ซึ่งโดยส่วนตัวได้บอกไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะไม่เสนอชื่อใครเข้ารับการสรรหา ซึ่งถือว่าตนก็แฟร์ที่สุดแล้ว เพราะในคำสั่งหัวหน้า คสช.เดิมให้อำนาจแต่งตั้ง รองปลัด ศธ.มาปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการทั้ง 2 ตำแหน่ง แต่ก็ไม่เอาแบบนั้น ต้องการให้มีผู้ทำหน้าที่เต็มเวลา และในการสรรหาก็ต้องมีคนเสนอชื่อผู้เข้ารับการสรรหา ซึ่งกรรมการทุกคนก็มีความเป็นกลาง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ส่วนนโยบายให้ยืมหนังสือเรียน แทนแจกหนังสือเรียนเด็กทุกคนฟรี ที่ ภตช. มองว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนกับนายกฯ และอาจจะเอื้อประโยชน์ให้แก่บางสำนักพิมพ์นั้น เรื่องนี้ ตอบมาหลายครั้งแล้ว และอยากให้คิดดูดีๆ ว่าเมื่อเงินซื้อหนังสือให้เด็กในโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพลดลง เอกชนจะขายหนังสือได้มากขึ้นหรือลดลง แม้แต่องค์การค้าของ สกสค. ก็อาจจะขายได้น้อยลงด้วยซ้ำ ดังนั้นนโยบายที่ออกมาเพื่อประหยัด ฝึกวินัยเด็กและเงินที่มีต้องซื้อหนังสือที่มีคุณภาพ ทุกคนต้องแข่งขันกันที่คุณภาพของหนังสือเรียน ก็จะทำให้เราได้รับหนังสือเรียนที่มีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ ในปีถัดไป "ที่บอกว่าผมให้ข้อมูลนายกฯไม่ครบถ้วนนั้น ก็ต้องไปถามท่านนายกฯ แต่ผมขอถามกลับว่าคุณคิดว่านายก ฯ ถูกหลอกง่ายหรือ ผมมั่นใจในนโยบายนี้ และขอให้ไปถามประชาชนด้วย" รมว.ศึกษาธิการ กล่าว