จากกรณีเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2560 เวลาประมาณ 12.00 น.ได้เกิดเหตุนักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิตบริเวณทะเลใกล้เกาะคอม้า ม.7 อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ ชื่อ MR.trinks norbert อายุ 63 ปี สัญชาติเยอรมัน ได้พักอาศัยที่บ่อผุดรีสอร์ท และซื้อทริปท่องเที่ยวทางน้ำเกาะพะงัน ผ่านเอเจนซี่ ทุย ทราเวล เกาะสมุย โดยมีบริษัทอะฮอย ซีซาร่า จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 2/2 ม.5 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีเป็นบริษัททัวร์นำเที่ยว และได้ออกเรือซีซ่า จากท่าเรือบ้านปลายแหลม เวลาประมาณ 19.00 น. กระทั่งเกิดเหตุในเวลาต่อมา ทั้งนี้จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมาพบว่า บริษัท อะฮอย ซีซาร่า จำกัดมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว แต่ไม่ได้จัดทำประกันอุบัติเหตุให้แก่นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวที่เสียชีวิต เนื่องจากได้ตรวจสอบไปยังบริษัทสยามซิตี้ประกันภัยปรากฎว่า ไม่ได้ส่งรายชื่อนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตแก่บริษัทประกันภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การอำนวยการสั่งการของพ.ต.อ.ศรีศักดิ์ คัมภีรญาณ ผกก.5 บก.ทท. พร้อมด้วยพ.ตท.มีลิน เพียรช่าง พ.ต.ท.บัณฑิต ขาวสุธรรม พ.ต.ท.นิคม เทียนห้าว รองผกก.5 บก.ทท. ได้สั่งการให้พ.ต.ท.ธนกร พัฒนนันแก้ว สว.ส.ทท.7 กก. 5 บก.ทท. ด.ต.ชวินทร์ณวัฒน์ ผุดแจ่มใส ด.ต.พรเทพ พงศานุวัฒน์ ด.ต.พีรเดช คงยศ และส.ต.ต.อนุวัฒน์ ขี่ทอง ผบ.หมู่ฯ ได้ร่วมกันจับกุมตัว 1.บริษัทอะฮอย ซีซาร่า จำกัด 2.นางคลาวเดีย ฟอสเตอร์ อายุ 51 สัญชาติเยอรมัน ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท โดยกล่าวหาว่า “ประกอบธุรกิจนำเที่ยวไม่จัดให้มีประกันอุบัติเหตุให้แก่นักท่องเที่ยวขณะเดินทาง” กระทั่งได้นำตัวมาทำบันทึกและนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เกาะสมุยเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกหมายเรียกพยานลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2560 แจ้งให้กรรมการผู้จัดการบริษัทสยามซิตี้ประกันภัย จำกัด(มหาชน) มาให้ปากคำเป็นพยานที่สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยพบกับร.ต.อ.อิศเรศ สำเนียงหวาน รองสว.(สอบสวน) ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 เวลา 09.00 น. ต่อเรื่องนี้ร.ต.อ.อิศเรศ สำเนียงหวาน รองสว.(สอบสวน)สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ฯ เปิดเผยว่า การเรียกตัวกรรมการผู้จัดการของบริษัทประกันภัยมาให้ปากคำในฐานะพยานครั้งนี้ เพื่อจะพิสูจน์ว่า บริษัทนำเที่ยวดังกล่าวได้มีการจัดทำประกันอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวไว้จริงหรือเปล่า ในเบื้องต้นขณะนี้ทางบริษัทก็แจ้งว่า มีการจัดทำประกันไว้ แต่ไม่รู้เจ้าหน้าที่มีการส่งรายชื่อนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันให้บริษัทประกันหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบจากบริษัทประกันภัยอีกทีว่า ข้อมูลตรงกันหรือไม่ ถ้าหากพบว่า ผิดจริง ก็คงจะดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะพรบ.ประกอบธุรกิจนำเที่ยวระบุไว้ชัดเจนว่าต้องมีการจัดทำประกันภัยคุ้มครองนักท่องเที่ยวไว้ โดยจะต้องมีการส่งรายชื่อนักท่องเที่ยวเพื่อแจ้งให้บริษัทประกันภัยที่รับประกันทราบ แต่ถ้าพบว่า บริษัทนำเที่ยวรายดังกล่าวปฎิบัติถูกต้อง ทางตำรวจก็คงทำอะไรไม่ได้