อดีตผู้บริหารกรมอนามัยหารือพ่อเมืองตรัง จัดมหกรรมฟันเทียมพระราชทานฯถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมมอบฟันเทียม 150 ราย
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 พ.ค. ที่ห้องทำงาน นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้การต้อนรับทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติ อดีตรองอธิบดีกรมอนามัย ทพญ.สุปราณี ดาโลดม อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกรมอนามัย พร้อมคณะ เพื่อปรึกษาหารือการจัดมหกรรมฟันเทียมพระราชทานฯถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยการมอบฟันเทียมพระราชทานให้กับผู้สูงอายุ จำนวน 150 คน ที่จัดขึ้นในวันที่ 25 พฤษภาคม ณ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีจังหวัดตรัง
ทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติ กล่าวว่า จากกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ความว่า “เวลาไม่มีฟัน กินอะไรก็ไม่อร่อย ทำให้ไม่มีความสุข จิตใจก็ไม่สบาย ร่างกายก็ไม่แข็งแรง” อันเป็นที่มาของโครงการฟันเทียมพระราชทานและการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา และนำไปสู่แผนงานทันตสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุประเทศไทย พ.ศ.2558-2565 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 25558 เห็นชอบแผนปฏิบัติงานปีงบประมาณ 2559-2561 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559 เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุประเทศไทยทั้ง 7 ประเด็นอย่างเป็นระบบ ครบวงจร ได้แก่ 1.การสูญเสียฟัน 2.โรคฟันผุและรากฟันผุ 3.โรคปริทันต์ 4.แผล/มะเร็งช่องปาก 5.ภาวะน้ำลายแห้ง 6.ฟันลึก 7.สภาวะช่องปากที่สัมพันธ์กับโรคทางระบบ ภายใต้ 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ 1.การพัฒนารูป ระบบและคุณภาพบริการ 2.การพัฒนานวัตกรรมทันตสุขภาพ 3.การพัฒนาหลักสูตรและบุคลากร 4.การบริหารจัดการ ซึ่งแผนงานดังกล่าวได้รับการบรรจุอยู่ในแผนบูรณาการการสร้างความเสมอภาครองรับสังคมผู้สูงอายุ
นายศิริพัฒ พัฒกุล กล่าวว่า ด้วยพนกนิกรชาวจังหวัดตรัง สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย ทรงห่วงใยผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันเคี้ยวอาหาร ซึ่งส่งผลต่อเคี้ยวอาหาร ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน กรมอนามัย ร่วมกับหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดมหกรรมฟันเทียมพระราชทานฯพร้อมร่วมกันออกหน่วยบริการใส่ฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุ ในโครงการรณรงค์จัดบริการฟันเทียมพระราชทาน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีเป้าหมายให้ผู้สูงอายุ 150 ราย ได้รับการใส่ฟันเทียมทั้งปาก
ทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติ กล่าวว่า จากกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ความว่า “เวลาไม่มีฟัน กินอะไรก็ไม่อร่อย ทำให้ไม่มีความสุข จิตใจก็ไม่สบาย ร่างกายก็ไม่แข็งแรง” อันเป็นที่มาของโครงการฟันเทียมพระราชทานและการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา และนำไปสู่แผนงานทันตสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุประเทศไทย พ.ศ.2558-2565 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 25558 เห็นชอบแผนปฏิบัติงานปีงบประมาณ 2559-2561 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559 เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุประเทศไทยทั้ง 7 ประเด็นอย่างเป็นระบบ ครบวงจร ได้แก่ 1.การสูญเสียฟัน 2.โรคฟันผุและรากฟันผุ 3.โรคปริทันต์ 4.แผล/มะเร็งช่องปาก 5.ภาวะน้ำลายแห้ง 6.ฟันลึก 7.สภาวะช่องปากที่สัมพันธ์กับโรคทางระบบ ภายใต้ 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ 1.การพัฒนารูป ระบบและคุณภาพบริการ 2.การพัฒนานวัตกรรมทันตสุขภาพ 3.การพัฒนาหลักสูตรและบุคลากร 4.การบริหารจัดการ ซึ่งแผนงานดังกล่าวได้รับการบรรจุอยู่ในแผนบูรณาการการสร้างความเสมอภาครองรับสังคมผู้สูงอายุ
นายศิริพัฒ พัฒกุล กล่าวว่า ด้วยพนกนิกรชาวจังหวัดตรัง สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย ทรงห่วงใยผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันเคี้ยวอาหาร ซึ่งส่งผลต่อเคี้ยวอาหาร ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน กรมอนามัย ร่วมกับหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดมหกรรมฟันเทียมพระราชทานฯพร้อมร่วมกันออกหน่วยบริการใส่ฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุ ในโครงการรณรงค์จัดบริการฟันเทียมพระราชทาน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีเป้าหมายให้ผู้สูงอายุ 150 ราย ได้รับการใส่ฟันเทียมทั้งปาก