นายอนันต์ มหัจฉริยพันธุ์ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา ร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปี ของสหกรณ์การเกษตรนิคมฯพิมาย จำกัด พร้อมให้คำแนะนำคณะกรรมการดำเนินการ ในการบริหารกิจการงานของสหกรณ์ฯ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์แห่งการจัดตั้งสหกรณ์ โดยมีคณะกรรมการดำเนินการ ฝ่ายจัดการ และสมาชิกสหกรณ์ ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง ณ สหกรณ์การเกษตรนิคมฯ พิมาย จำกัด จังหวัดนครราชสีมา นายอนันต์ มหัจฉริยพันธุ์ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรนิคมฯ พิมาย จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์ เมื่อปี 2517 ณ วันสิ้นปีทางบัญชี วันที่ 31 มีนาคม 2560 มีสมาชิก จำนวน 2,375 คน ในจำนวนนี้มีหุ้นอยู่กับสหกรณ์ฯ 142 ล้านบาท หรือเฉลี่ยคนละ 60,000 บาทเศษ มีเงินฝากทุกประเภทอยู่กับสหกรณ์ฯ 55 ล้าน หรือเฉลี่ยคนละ 40,000 บาทเศษ ในขณะที่สมาชิกมีหนี้เงินกู้กับสหกรณ์ฯ ทุกสัญญา รวมกัน 285 ล้าน หรือเฉลี่ยคนละ 120,000 บาท ทั้งนี้ การที่สมาชิกมีหนี้เงินกู้ในแต่ละราย มากกว่าหุ้นและเงินฝากรวมกัน เฉลี่ยรายละ 20,000 บาท ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดปกติ หากสมาชิกสามารถกู้เงินจากสหกรณ์ฯ ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าการกู้จากสถาบันการเงินอื่น ที่สำคัญคือ สมาชิกจะต้องนำเงินกู้นั้นไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ที่ได้ขอกู้ เพื่อการลดต้นทุนการผลิต จัดหาอุปกรณ์เครื่องมือการเกษตร และใช้จ่ายในสิ่งจำเป็นสำหรับครัวเรือน เมื่อถึงวันครบกำหนดชำระ สมาชิกสามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดระยะเวลาและไม่ผิดสัญญา สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สมาชิกของสหกรณ์เกือบทั้งหมด มีอาชีพทางด้านการเกษตร เช่น ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง สมาชิกสหกรณ์ได้ซื้อปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย ยาปราบวัชพืช/ศัตรูพืช น้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าอุปโภค/บริโภค จากสหกรณ์ฯ ประมาณ 28 ล้านบาท โดยแยกเป็นปุ๋ย ยา 13 ล้าน น้ำมันเชื้อเพลิง 15 ล้าน และเป็นสินค้าอุปโภค/บริโภค 155,210 บาท หรือเฉลี่ย 65 บาท/คน/ปี เป็นตัวเลขที่ถือว่าสมาชิกให้ความร่วมมือในการมาทำธุรกิจกับสหกรณ์ด้านนี้ น้อยและต่ำมากๆ คณะกรรมการดำเนินการ และฝ่ายจัดการสหกรณ์ฯ จึงควรต้องหันมาทบทวนว่า การที่สมาชิกไม่มาทำธุรกิจกับสหกรณ์ในด้านของสินค้าอุปโภค/บริโภค เป็นเพราะด้านราคาหรือไม่ เป็นสินค้าที่ไม่ตรงกับความต้องการหรือไม่ สินค้าไม่มีคุณภาพใช่หรือไม่ หรือเพราะปัจจัยอื่นๆ ดังนั้น หากไม่ใช่สิ่งเหล่านี้ สมาชิกก็ควรจะได้หันกลับมาทำธุรกิจกับสหกรณ์ฯ เพิ่มมากขึ้น เพราะนี่คือสหกรณ์ของสมาชิกทุกคน ที่มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของ นอกจากสินค้าจะมีคุณภาพและราคาที่ยุติธรรมแล้ว ในวันนี้ สมาชิกสหกรณ์หลายคนยังจะได้รับเงินเฉลี่ยคืนตามส่วนแห่งธุรกิจของสินค้าแต่ละประเภทอีกด้วย จึงฝากถึงสมาชิกในการใส่ใจในการร่วมทำธุรกิจกับสหกรณ์ซึ่งเป็นของทุกคน นายอนันต์ กล่าวอีกว่า สหกรณ์การเกษตรนิคมฯ พิมาย จำกัด มีกำไร 13 ล้าน ได้จัดสรรเป็นทุนสำรอง ร้อยละ 12 ของกำไรสุทธิ จัดสรรเป็นค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์ จำนวน 30,000 บาท และที่เหลือได้จัดสรรตามข้อบังคับ เช่น เป็นเงินปันผล ร้อยละ 5.5 เป็นเงินเฉลี่ยคืนตามส่วนแห่งธุรกิจ อาทิ ขายมันสำปะหลังให้กับสหกรณ์ฯ ตันละ 11 บาท เป็นทุนพัฒนากิจการสหกรณ์ฯ ทุนสาธารณประโยชน์ ทุนเพื่อการศึกษาและฝึกอบรมสมาชิก เป็นต้น