ตำรวจกาฬสินธุ์ตามรวบหนุ่มวัย 24 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าทุบหัวหญิงสาวทิ้งศพหมกป่า จนเหลือแต่โครงกระดูก สารภาพแค้นถูกเบี้ยวเงินค่ายาเสพติด จึงวางแผนลวงมาฆ่าทิ้ง เพราะไม่ชอบคนโกหกและตอแหลขณะที่ตำรวจสภ.คำม่วงจับเครือข่ายค้ายาเสพติด 2 ราย เผยเพิ่งออกจากคุก 3 วัน แต่ไม่เข็ดกลับมาเป็นขาใหญ่ค้ายาบ้าในพื้นที่ สุดท้ายถูกจับและกลับเข้าคุกอีกครั้ง เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 25 พ.ค. ที่หน้าสำนักงานตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ คำดี ผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.โสภณ วารี รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วัฒนา เกสรมาลา ผกก.สภ.คำม่วง พ.ต.อ.ประยุทธ อรัญโชติ ผกก.สภ.ห้วยผึ้ง พ.อ.ประวัติ จารุตัน เสธ.กกล.รส.กส.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.คำม่วง ชุดสืบสวนสภ.ห้วยผึ้ง และชุดสืบสวนภ.จว.กาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายธวัชชัย หรือเบล วรรณเกษม อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 14 ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางก้อนหินขนาดเกือบเท่าศีรษะคน 1 ก้อน สร้อยด้ายถัก 1 เส้น พระเครื่อง 1 องค์ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เสื้อคลุม 1 ผืน และรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า MSX สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน หลังก่อเหตุลวง น.ส.รัตนา หรือเจี๊ยบ กั้วเฟื้อง อายุ 34 ปี ราษฎรบ้านโนนยิ่งสัน อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ไปฆ่าแล้วทิ้งศพไว้ในป่าชุมชนบ้านคำม่วง ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 เวลาประมาณ 11.30 น. พนักงานสอบสวนเวร สภ.ห้วยผึ้ง ได้รับแจ้งจากนายวันชัย สิมสิน ผู้ใหญ่บ้านคำม่วง หมู่ที่ 15 ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ว่ามีคนพบโครงกระดูกมนุษย์ ที่บริเวณป่าชุมชนบ้านคำม่วง จากนั้นจึงแจ้งผู้บังคับบัญชาไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบโครงกระดูกมนุษย์เพศหญิง ส่วนสูงประมาณ 150 ซม. ลักษณะนอนตะแคงขวา สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงยืดขายาวสีดำลายลูกปลา ลักษณะกะโหลกศีรษะมีรอยร้าว คล้ายกับถูกของแข็งทุบ และบริเวณที่พบโครงกระดูก พบยางรัดผมสีชมพู และพระเครื่อง 1 องค์ ห่างออกไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร พบโทรศัพท์มือถือสภาพถูกทุบทำลาย 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐานและส่งศพตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ขอนแก่น ทั้งนี้หลังเกิดเหตุพล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยตำรวจสภ.ห้วยผึ้งและชุดสืบสวนภ.จว.กาฬสินธุ์ลงพื้นที่สืบสวน โดยลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งพบสร้อยคอด้ายถัก 1 เส้น ตกอยู่ที่เกิดเหตุ และพบโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง ห่างจากที่เกิดเหตุไปประมาณ 1 กม. จึงนำหลักฐานทั้งสองอย่างที่ตรวจพบมาตรวจสอบ โดยจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ ทำให้ทราบว่าผู้ตายคือ น.ส.รัตนา หรือเจี๊ยบ กั้วเฟื้อง อายุ 34 ปี ชาวบ้านโนนยิ่งสัน อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ส่วนสร้อยคอด้ายถักตรงกับสร้อยของนายธวัชชัย หรือเบล วรรณเกษ ผู้ต้องสงสัย ซึ่งถ่ายรูปลงเฟสบุ๊คก่อนที่จะเกิดเหตุพบศพ และจากการตรวจสอบประวัติทราบว่านายธวัชชัย เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและหลบหนีการประกันตัวในศาลคดียาเสพติดอยู่ ต่อมาวันที่ 24 พฤษภาคม 2560 ทราบว่า นายธวัชชัย ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านดงอุดม ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อมาขอเงินจากมารดา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงนำกำลังไปตรวจสอบ ซึ่งเมื่อไปถึงพบนายธวัชชัย กำลังขี่รถจยย.เข้ามา จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น ซึ่งผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ได้ตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติด จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ห้วยผึ้ง โดยเมื่อซักถามถึงกรณีพบศพ น.ส.รัตนา หรือเจี๊ยบ นายธวัชชัย ได้ให้การรับสารภาพ ว่า รู้จักกับน.ส.รัตนามาหลายปีแล้ว เนื่องจากเป็นเครือข่ายค้ายาบ้าร่วมกัน แต่ระยะหลังน.ส.รัตนา มาเอายาบ้าของตนไปขาย แต่ไม่เอาเงินมาให้หลายครั้ง ซึ่งตนพยายามทวงถามแต่ก็ได้รับคำตอบว่ากำลังหาเงินอยู่ และล่าสุดน.ส.รัตนา ได้เอายาบ้าของตนไปขายอีกครั้ง แต่ก็ไม่ยอมจ่ายอีก จึงคิดว่าถูกหลอกหักหลังและเกิดความแค้น เนื่องจากไม่ชอบคนโกหกและตอแหล จนนำสติ๊กเกอร์มาติดประชดไว้ที่ถังน้ำมันรถจยย.ไว้เป็นคติเตือนใจ โดยก่อนเกิดเหตุจึงได้โทรศัพท์ไปนัดให้น.ส.รัตนา มาเอายาบ้าที่บริเวณป่าชุมชนบ้านคำม่วง ซึ่งระหว่างพูดคุยกันจึงอาศัยช่วงที่ น.ส.รัตนาเผลอ ยกก้อนหินขนาดเกือบเท่าศีรษะคนทุบเข้าที่ศีรษะน.ส.รัตนา จนล้มลง และทุบซ้ำอีก 2 ครั้ง จน น.ส.รัตนา แน่นิ่งสลบไป จากนั้นจึงได้เดินทางกลับมาที่บ้านพักและใช้ชีวิตตามปกติ กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมตัวได้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนานำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนอีก 2 คดี ชุดสืบสวนสภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ นำโดย พ.ต.อ.วัฒนา เกสรมาลา ผกก.สภ.คำม่วงแถลงผลการจับกุมตัวนายประกาศิต พละสินธุ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ม.2 ต.ทุ่งคลอง อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบุคคลที่เพิ่งจะพ้นโทษในคดียาเสพติดมาได้ 3 วัน พร้อมของกลางยาบ้า 943 เม็ด และนายอุดร ราชดี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางยาบ้า 205 เม็ด อาวุธปืนขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายประกาศิต พละสินธุ์ ซึ่งเป็นบุคคลที่เพิ่งจะพ้นโทษในคดียาเสพติดมา ได้ประมาณ 3 วัน แต่กลับไม่เข็ดหลาบ กลับมาขายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่อีก เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อเดินทางไปตรวจสอบพบนายประกาศิต แสดงตัวเป็นผู้พักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวและ ยินยอมให้ตรวจค้น โดยผลการตรวจค้นพบยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน จำนวน 943 เม็ด สีเขียว จำนวน 10 เม็ด อยู่ในถุงกางเกงด้านหน้าด้านซ้ายมือของผู้ต้องหา สอบถามนายประกาศิต ให้การว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนจริง ตนได้ไปรับยาบ้าจำนวนดังกล่าวมาจากนายเปา หรือวิษณุกรณ์ ชำนาญ อยู่บ้านเลขที่ 227 หมู่ 4 ต.ทุ่งคลอง อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ที่บ้านในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.คำม่วง ส่วนนายเปาหรือนายวิษณุกรณ์ ชำนาญ จะให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับนายอุดร ราชดี ซึ่งมีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้า ที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 11 ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ จึงได้ให้สายลับไปล่อซื้อยาบ้า จำนวน 10 เม็ด โดยวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจซุ่มดูในบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ เมื่อล่อซื้อสำเร็จ จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปตรวจสอบ พบนายอุดร อยู่ภายในบ้าน ถืออาวุธปืนพกสั้นอยู่ในมือ เจ้าหน้าที่จึงบุกเข้าทำการจับกุม ตรวจพบยาบ้า จำนวน 205 เม็ด ตรวจพบอยู่ในถุงกางเกงด้านหน้าด้านซ้ายมือของผู้ต้องหา และพบธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 1,000 บาท ซึ่งตรงกันกับที่ได้ถ่ายสำเนาและลงบันทึกประจำวันไว้ในการล่อซื้อ สอบถามนายอุดร ให้การว่า ได้จำหน่ายยาบ้าและยาบ้าทั้งหมดเป็นของตนจริง ส่วนอาวุธปืนได้มาจากผู้เสพ (ไม่ทราบชื่อ ที่อยู่) นำมาแลกยาบ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คำม่วงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย