เร่งผลักดันน้ำคลองที่ล้นตลิ่ง เตรียมพร้อมทุกหน่วยรับมือสถานการณ์ฝนหนักต่อเนื่องถึงวันอาทิตย์ แนะประชาชนติดตามข่าวสารใกล้ชิด วางแผนเดินทาง-เลี่ยงจุดอ่อนน้ำท่วม ลั่น! จะแก้บรรเทาความเดือดร้อน-ช่วยเหลือให้เร็วที่สุด พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของกทม.ตลอดทั้งคืน ตั้งแต่วันที่ 24 ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 พ.ค. 60 ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 130 มม. โดยพื้นที่ที่มีปริมาณฝนตกหนักมากที่สุดถึง 169 มม. คือ เขตวังทองหลาง ทำให้การระบายน้ำออกจากพื้นที่ดำเนินการได้ไม่ทันต่อปริมาณน้ำฝนที่เติมลงมาตลอดทั้งคืน และเกิดเป็นปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่าง ๆ ในที่สุด และยังคงพบปัญหาสิ่งของกีดขวางการระบายน้ำ ตั้งแต่ขยะอุดตันบริเวณหน้าตะแกรงระบายน้ำริมถนน ไปจนถึงวัสดุเหลือใช้ขนาดใหญ่ เช่น ที่นอน ขวางตะแกรงดักขยะในอุโมงค์ระบายน้ำ ทั้งนี้ นอกจากลักษณะทางกายภาพของกทม.ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มแล้ว ปัญหาการกีดขวางทางระบายน้ำดังกล่าวยังนับเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อระบบการระบายน้ำของกทม.อีกประการหนึ่งด้วย จึงต้องเน้นย้ำขอความร่วมมือประชาชน งดทิ้งขยะและวัสดุทุกประเภทลงในแหล่งน้ำโดยเด็ดขาด ส่วนกรณีน้ำในคลองมีระดับสูง ทำให้การสูบน้ำลงสู่คลองทำได้ช้าจนมีน้ำล้นตลิ่งในบางแห่งนั้น กทม. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันน้ำออกจากคลองอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม.ได้ติดตามประกาศแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่าในช่วงวันที่ 25-28 พ.ค.60 ไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกและฝนตกหนักบางพื้นที่ รวมถึงกทม.และปริมณฑลจะได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนที่ตกหนักด้วย จึงมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว และขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลองเฝ้าระวังสถานการณ์โดยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และเตรียมตัวรับสถานการณ์ รวมทั้งวางแผนการเดินทาง และหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีระดับน้ำสูง เพื่อความปลอดภัยในการสัญจร ทั้งนี้ ได้กำชับให้สำนักการระบายน้ำและหน่วยงาน กทม. ที่เกี่ยวข้องเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เฝ้าระวัง รวมถึงพื้นที่ต่างระดับซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะและพื้นที่ปิดล้อม โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมเพื่อช่วยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งเร่งพร่องน้ำในคลองสายต่างๆ เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนบนถนนสายหลัก สายรอง และซอยย่อยต่างๆ ตลอดจนให้ทุกหน่วยติดตามการพยากรณ์อากาศและสถานการณ์ฝนอย่างใกล้ชิด และตรวจสอบเครื่องสูบน้ำและเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ประจำจุดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและให้การช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย