กรมการข้าว จัดยิ่งใหญ่งาน “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” ปี 60 ภายใต้แนวคิด “ศาสตร์พระราชา นำชาวนาสู่ยุค 4.0” โชว์สุดอลังคลังความรู้-เทคโนโลยีด้านข้าวสู่ยุค 4.0 พร้อมพัฒนาข้าวสู่สากล วันนี้ (26 พ.ค.60) นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว พร้อมด้วยนายอัษฎางค์ สีหาราช ประธานคณะกรรมการศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” ประจำปี 2560 ภายใต้แนวคิด "ศาสตร์พระราชานำชาวนาสู่ยุค 4.0" ณ กรมการข้าว เกษตรกลางบางเขน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ข้าว เป็นพืชอาหารหลักที่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตคนไทยและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ นอกจากจะผลิตข้าวเพื่อบริโภคภายในประเทศแล้ว ข้าวยังเป็นสินค้าส่งออกนำเงินรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งข้าวไทยมีคุณสมบัติโดดเด่น เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ อาชีพชาวนาเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของชาติ มีคุณค่ากับวิถีชีวิตและสังคมไทย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ข้าวและชาวนาจึงควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ และเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงให้ความสำคัญต่อกิจการด้านข้าวมาตลอด ด้วยเหตุผลความสำคัญดังกล่าว คณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงได้มีมติ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2552 ซึ่งเห็นชอบให้วันที่ 5 มิถุนายนของทุก ปีเป็น “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” ซึ่งในปีนี้กรมการข้าว จึงได้กำหนดจัดงาน “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” ประจำปี 2560 ขึ้น ภายใต้แนวคิด “ศาสตร์พระราชา นำชาวนาสู่ยุค 4.0” ในระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน 2560นี้ ณ บริเวณกรมการข้าว เกษตรกลางบางเขน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ทั้งนี้ เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร และราชวงศ์ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นแก่กิจการด้านข้าวและชาวนาของประเทศ รวมทั้งเป็นการรำลึกถึงความสำคัญของข้าวและเชิดชูเกียรติชาวนาไทย ตลอดจนเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านข้าวของไทย ซึ่งมีหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและพี่น้องชาวนามาร่วมแสดงผลงานทางวิชาการด้านข้าวเพื่อโชว์ศักยภาพข้าวไทยยุค 4.0 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดงานดังกล่าว ในวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2560 เวลา 14.00 น. จึงขอเชิญชวนชาวนา เกษตรกร และประชาชนทั่วไปมาเฝ้ารับเสด็จฯ และสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวนาไทยทั่วประเทศ นายอนันต์ กล่าวว่า ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย ตลอด 3 วัน ซึ่งได้รับความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรชาวนา ในการจัดนิทรรศการแสดงผลงานนวัตกรรม ต่างๆ ในด้านการข้าวไทย อาทิ นิทรรศการเทิดพระเกียรติและพระราชกรณียกิจด้านข้าว “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาข้าวและชาวนา” นิทรรศการทางวิชาการ อาทิ ข้าวพันธุ์ใหม่ แก้ไขปัญหาให้ชาวนา ซึ่งในปีนี้จะมีพันธุ์ใหม่แนะนำถึง 6 พันธุ์ กข71 กข73 กข75 ซีบูกันตัง ดอกข่า50 มะลินิลสุรินทร์หรือมะลิดำ 2 ข้าวน้ำตาลต่ำ พิษณุโลก80 และกข 43 เพื่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน นิทรรศการเชิดชูเกียรติชาวนา การยกระดับมาตรฐานข้าวเพื่อชาวนา สู่ยุค 4.0 การจัดแสดงผลงานนวัตกรรม การแสดงทางวัฒนธรรมด้านข้าว พิธีบวงสรวงแม่โพสพและขบวนแห่บูชาแม่โพสพและวัฒนธรรมประเพณี 4 ภาค รวมถึงนิทรรศการเครื่องจักรกลการเกษตรจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ เครื่องคัดแยกเมล็ดพันธุ์ข้าว เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าว การสาธิตการโรยสารด้วยเฮลิคอปเตอร์และอากาศยานไร้คนขับ (Agriculture Drone) เป็นต้น รวมถึงการจัดเสวนาทางวิชาการ 2 หัวข้อ ได้แก่ “ก้าวใหม่ชาวนาไทย ยุค 4.0” และ การเสวนา “นาแปลงใหญ่กับการขับเคลื่อนชาวนาสู่ยุค 4.0” พร้อมกิจกรรมสาธิตการทำนาด้วยวิธีดำนา วิธีหว่านและโยนกล้าโดยยุวเกษตรกร สาธิตเมนูอาหารจากข้าว ผู้ที่เข้าร่วมชมงานยังได้เรียนรู้ด้านการผลิตข้าวในแปลงเกษตรสาธิตเศรษฐกิจพอเพียง และยังมีกิจกรรมบันเทิงและการออกร้านจำหน่ายสินค้าเกษตรและอาหารอีกด้วย นายอนันต์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กรมการข้าว ยังได้จัดงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติกระจายในระดับภูมิภาคอีก 4 แห่ง ระหว่าง วันที่ 4-5 มิถุนายน นี้ ได้แก่ ภาคกลาง ณ ศูนย์วิจัยข้าวชัยนาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ภาคเหนือ ณ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวเชียงใหม่ และภาคใต้ ณ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพัทลุง ซึ่งแห่งนี้จะมีการจัดขบวนบูชาแม่โพสพด้วย “กรมการข้าว ขอเชิญชวนชาวนา เกษตรกร นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนที่สนใจเข้าร่วมชมงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณกรมการข้าว เกษตรกลางบางเขน ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน 2560นี้ เพื่อร่วมเชิดชูเกียรติชาวนาไทย ในฐานะผู้ผลิตอาหารหลักให้กับประชาชน ซึ่งเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของชาติ ชมฟรีและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน” อธิบดีกรมการข้าว กล่าว