วันนี้ (26 พ.ค.60) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีสถานีตรวจสภาพอากาศฝนหลวงด้วยระบบเรดาร์ เพื่อใช้ในการวางแผนและประเมินผลการปฏิบัติการฝนหลวงรวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีฝนหลวง โดยครอบคลุมพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศทั้งหมด 5 สถานี ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ด้วยคุณสมบัติของระบบเรดาร์ตรวจอากาศที่สามารถตรวจวัดกลุ่มเมฆฝน และติดตามการเคลื่อนที่ของกลุ่มฝนได้ในรัศมีการตรวจวัด อีกทั้งยังสามารถใช้ในการพยากรณ์อากาศระยะสั้นมาก (Nowcasting) เป็นการเตือนภัยสภาพอากาศ และเพื่อช่วยให้การบริหารจัดการน้ำในบรรยากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงได้จัดอบรมโครงการพัฒนาองค์ความรู้การใช้ข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศฝนหลวง ประจำปีงบประมาณ 2560 ให้แก่บุคลากรและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ณ สถานีเรดาร์ฝนหลวงพิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 25-27 พฤษภาคม 2560 โดยมอบหมายให้ นายชัยรัตน์ เกื้ออรุณ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นประธานเปิดโครงการฯ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า สำหรับการอบรมโครงการพัฒนาองค์ความรู้การใช้ข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศฝนหลวง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และพัฒนาความสามารถในการใช้เครื่องมือ และอุปกรณ์วิทยาศาสตร์อย่างถูกต้อง มีความเข้าใจในการบำรุงรักษาปรับแต่งอุปกรณ์เรดาร์ต่างๆ ให้ได้มาตรฐาน และสามารถนำไปปฏิบัติงานได้อย่างแม่นยำ เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพ นำไปสู่การกำหนดและวางแผนการปฏิบัติงานในอนาคตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการพัฒนาบุคลากรให้เป็น Smart Officer ซึ่งนโยบายนี้ให้ความสำคัญกับบุคลากรเป็นการเสริมสร้างสมรรถนะด้านผู้นำยุคใหม่ที่ทันสมัย มีอุดมการณ์และจิตสำนึกการเป็นข้าราชการที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม และสามารถเข้าใจนโยบายของรัฐบาล นโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สามารถปฏิบัติงานที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีศักยภาพตรงตามสมรรถนะความสามารถของบุคลากร นายสุรสีห์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการปฏิบัติการฝนหลวง กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดและพร้อมที่จะขึ้นบินปฏิบัติการทันทีที่สภาพอากาศเหมาะสมเอื้ออำนวยและยังคงปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและเติมน้ำในเขื่อนที่สำคัญของประเทศไทย โดยไม่ให้มีผลกระทบกับพื้นที่เก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร ทั้งนี้เกษตรกรและผู้สนใจทั่วไปสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร หรือ ที่เว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร www.royalrain.go.th