สำหรับงานสัมมนาออนไลน์ Thailand Tourism Forum เฉพาะกิจ ประจำปี 2020 ภายใต้ห้วข้อกรุงเทพฯ เฉพาะกิจ (Bangkok Edition) ซึ่งจัดขึ้นโดย ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ ร่วมกับ หอการค้าอเมริกันในประเทศไทย ผ่านรูปแบบการสัมมนาแบบ Hybrid Meeting มีผู้เข้าร่วมงานสถานที่จริงจำกัดตามมาตรการเว้นระยะห่างสังคม และถ่ายทอดสอดผ่านระบบออนไลน์แบบเสมือนจริง อีกทั้งยังมีผู้นำจากบริษัทด้านการท่องเที่ยวและโรงแรมร่วมชี้แนะแนวทางการฟื้นตัวเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทย บิล บาร์เน็ต โดย นายบิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการ ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ กล่าวว่า จากผลสำรวจการท่องเที่ยวภายในประเทศของ ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ ร่วมกับ เดลิเวอร์ริ่ง เอเชีย คอมมิวนิเคชั่นส์ พบว่ามีการท่องเที่ยวกว่า 227 ล้านครั้งในปี 2562 สูงกว่าการท่องเที่ยวต่างประเทศที่มีเพียง 39.8 ล้านครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของโรงแรมและผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไทย ทั้งนี้ผลสำรวจที่สุ่มมาจากกลุ่มตัวอย่างชาวกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นตัวแทนของประชากรกว่า 15 ล้านคน พบว่า คนกรุงเทพมีความต้องการที่จะไปเที่ยวเพื่อผ่อนคลายความเครียด โดยมีตัวเลือกสถานที่ท่องเที่ยว 3 อันดับแรก คือ หัวหิน พัทยา และเขาใหญ่ อีกทั้งยังมีเกาะช้าง และเกาะกูด เป็นตัวเลือกที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก รวมถึงเมืองท่องเที่ยวบนภูเขาของจังหวัดเพชรบูรณ์ น่าน ปาย และแม่สอด เป็นต้น
เพราะฉะนั้นในขณะที่การท่องเที่ยวระหว่างประเทศยังคงต้องรอข้อตกลงทวิภาคีข้ามพรมแดนและการฟื้นฟูระบบขนส่งทางอากาศ ดังนั้นเป้าหมายระยะสั้นของการท่องเที่ยวไทยและธุรกิจโรงแรม คือการดึงกระแสเงินสดจากตลาดนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งคาดว่า นักท่องเที่ยวน่าจะเดินทางท่องเที่ยวโดยใช้รถยนต์เป็นส่วนมากในช่วงที่เหลือของปี 2563 ด้าน นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทาราโฮเทลแอนด์รีสอร์ท กล่าวถึงภาคธุรกิจโรงแรมในไทยในช่วงวิกฤติโควิด-19 ว่า หลังจากมาตรการปลดล็อกระยะ 4 ได้ผ่านพ้นไป ธุรกิจโรงแรมเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น โดย ทางเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ได้เปิดให้บริการตลอดไม่มีการปิดตัวตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ถึงแม้อัตราการเข้าพักจะน้อย แต่ได้มองหาธุรกิจคู่ขนานในการเข้าพัก อาทิ ทริปท่องเที่ยวในเมือง หรือใช้ประโยชน์จากพื้นที่ห้างสรรพสินค้าที่เปิดให้บริการแล้ว ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ส่วนโรงแรมอื่น ๆ จะเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป โดยมีการวิเคราะห์โรงแรมทั้งหมดเพื่อประเมินจำนวนการเข้าพักก่อนจะเปิดบริการอีกครั้ง รวมทั้งพิจารณาถึงผลกำไรและขาดทุน มูลค่าแบรนด์ และปัจจัยการรับรู้ เพื่อสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในเวลานี้มั่นใจถึงอุปสงค์ของตลาดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวภายในประเทศ อย่างเช่น เซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา ที่เปิดบริการใหม่อีกครั้งกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มียอดจองห้องพักสูงมากภายใน 10 วัน แจสเปอร์ ปาล์มควิสท์ ขณะที่ นาย แจสเปอร์ ปาล์มควิสท์ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก STR ยังกล่าวถึงตัวเลขล่าสุดหลังเปิดตลาดท่องเที่ยว ว่า ช่วงเดือนมิถุนายน 2563 การท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวขึ้นมากกว่า 25% และจากการสำรวจอุปสงค์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังพบว่านักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 60% ต้องการเดินทางมายังประเทศไทยทันทีที่เปิดประเทศ โดยมีแรงจูงใจจากราคาห้องพักที่ต่ำลง ด้านการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ คาดว่า อัตราการเข้าพักจะใช้เวลาในการฟื้นตัวนานถึง 4 ปี และราคาเฉลี่ยค่าห้องต่อคืนนานถึง 10 ปีจึงจะกลับมาในระดับเดิมอีกครั้ง เช่นเดียวกับการฟื้นตัวที่ล่าช้าทั่วโลก แต่ในฐานะที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองเศรษฐกิจของประเทศไทย จึงต้องเป็นผู้นำในการฝ่าวิกฤติโควิด-19 ในครั้งนี้ ซึ่งทางภาครัฐและผู้ประกอบการควรร่วมมือกันส่งเสริมการฟื้นฟูการท่องเที่ยว และผลักดันธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีอยู่ให้มีคุณภาพสูงมากกว่าปริมาณ