วันที่ 4 มิ.ย.60 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า คดีนี้คดีสะเทือนขวัญพี่น้องประชาชน ต้องขอขอบคุณ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ฝ่ายปราบปราม ท่านแม่ทัพภาคที่ 3 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ผู้บัญการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมือง รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และผู้กำกับการ สภ,เขาสวนกวาง และคณะนายตำรวจที่ทำคดีนี้ทุกท่าน เนื่องจากคดีหั่นศพภาษาที่เราใช้เรียกตามสื่อ เป็นคดีสะเทือนขวัญอุฉกรรจ์และเป็นคดีที่น่าสนใจของพี่น้องประชาชน จึงสั่งการให้ พล.ต.อเฉลิมเกียรติไปเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายในคดีนี้ให้ได้ ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่าน หลังจากนั้น 2 เจอศพซึ่งได้รับแจ้งที่เขาสวนกวางจากนั้นก็ได้มีการมอบหมายหน้าที่การงานให้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติไปควบคุมกำกับดูแลสั่งการ อย่างใกล้ชิด พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 ท้องที่สภ.เขาสวนกวางสามารถออกหมายจับและรู้ตัวได้ผู้กระทำความผิดทั้งหมด 5 ราย เป็นหญิง 4 ชาย 1 ซึ่งผู้ชายคือนายวศินถูกจับที่ด่านหนองคาย ส่วน น.ส.จินดารัตน์ หรือเบนซ์ มอบตัว หลังจากนั้นผู้ต้องหาที่หลบหนี 3 คนมี น.ส.ปิยะนุช น.ส.อภิวรรณ น.ส.กรรวิตา หรือ อิญ หลบหนีไปที่ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งจากการสอบถามผู้ต้องหาที้ง 3 ที่ได้ออกกมายจับ จริงๆแล้ว ขามีความตั้งใจที่จะมอบตัว แต่เธอกำลังคิดอยู่ว่าจะมอบยังไง อะไรยังไงสุดท้ายก็ได้มอบตัว ถามผู้ต้องหาทั้ง 3 คนยอมรับสารภาพหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่าจริงๆแล้วผมก็ถามสาเหตุของการฆ่าบอกว่า 1.เรื่องของยาเสพติด 2.เนื่องหนี้สินเก่า ส่วนหมาบจับมีอยู่ 3 -4 ข้อหาคดนี้มีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องจำนวน 5รายแต่แบ่งหน้าที่กันทำหน้าที่ จริงๆแล้วที่สื่อโซเชียลลง มันไม่ให้ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เป็นสารเสพในพื้นที่ขอนแก่นเท่านั้นเหตุเกิดจากที่ น.ส.วริศรา ถูกจับเมื่อปลายปี 59เจ้าที่มีการขยายผลไปที่ น.ส.ปิยานุช ไม่ใช่ขบวนการค้ายาข้ามชาติแล้ว3 คนนี้หนี้ไปประเทศ ไม่ใช่ คือเรื่องอยู่ในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้หมด เดี๋ยวจะเป็นข้อต่อสู้ทางคดี จึงได้กดดันไปทางประเทศเพื่อน บ้านอยู่แล้ว ในเวลาเดียวกันเพราะว่าคนชื่อเบนซ์ ที่อยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยจากคำให้การของ น.ส.เปรี้ยว ซึ่งเบนซ์เคยทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้านเขาคงจะบอกให้แค่นั้นเองเดิมคิดว่าซื้อหรือว่า ป.ส.บอกว่าน่าจะขบวนการใหญ่ จริงๆเพราะสอบสวนขยายผลแล้วไม่ใช่ คือบางครั้งทำให้สับสน พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า หลังจากนี้ตำรวจภูธรภาค 4 ก็รับตัวไปโดยมี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ลงไปควบคุม การทำแผนประกอบ คำรับสารภาพ พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า หลังจากราชการแถลงข่าววันนี้แล้วจะนำตัวผู้ต้องหาไปที่จังหวัดขอนแก่นคงจะไปถึงค่ำๆการทำแผนคงจะเป็นพรุ่งนี้ สำหรับข้อกล่าวหาแจ้งกับทั้ง 3 คนร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและรอกฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือ ทำลายศพ ปิดบังการตาย และข้อปล้นทรัพย์ รับของโจร ทั้งเปรี้ยว แจ้ และเอิญ และนายวศิน ซึ่งจับไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 คนและวันนี้อีก 3 คน รวม 5 คน ซึ่งมูลเหตุตามที่เคยออกสื่อไปแล้วโดยเฉพาะเรื่องของการค้ายาข้ามชาติน้ำหนักแทบไม่มีเลย ยืนยันว่าเป็นความอาฆาตแค้นส่วนตัวเพราะว่าหลักฐานต่างๆเรามีสินเชื่อมั่นว่าเรื่องค้ายาข้ามชาติ ไม่มีเลย สื่อไปลงตรงนี้ เยอะมากหลายทิศทางตามโซเชียลขอยืนยันกับสื่อมวลชน นอกจากนี้มีการสอบพยานไปแล้วจำนวน 22 ปาก สำหรับวันพรุ่งนี้จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพประมาณ 7 -8 จุดด้วยกัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า น.ส.ปิยานุช เขา ทำงานอยู่ต่างประเทศ หลายประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ พอมีความรู้แล้วก็เดินทางคนเดียว แต่ทั้ง 3 คนมีความรู้ สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ จริงๆแล้วเขาเพียงต้องการแค่สั่งสอน เท่านั้นเอง และไม่ได้เจอกันเป็นปี หลังจากที่เกิดเหตุแล้ว และก็ไม่ได้ติดใจอะไรบังเอิญเขากลับมาจากต่างประเทศ วันนั้นแล้วมาเจอน้องแอ๋ม ที่จุดนัดพบแค่นั้นเอง ผมบอกแล้วว่ามันมีเหตุปลายปี 59 กลุ่มที่เข้าเสพยาไอซ์ เสพติด K และจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจับกุมและขยายผล ปกติขยายผลไปถึง น.ส.เปรี้ยว ซึ่ง น.ส.ก็ถูกจับคุมด้วย และขยายผลต่องาน ซึ่ง น.ส.แอ๋ม ให้การในตอนนั้นไม่เกี่ยวกับขบวนการยาเสพติดหักกันเรื่องยา หรือหักกันเรื่อง เงินทองไม่จ่ายไม่ใชนอกจากนี้การสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง3 คนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาและทุกข้อหา ผมก็บอกไปแล้วแต่ต้น พวกท่านไม่ค่อยฟังเลยท่านก็ร่วนแต่ผม พล.ต.ท.ณัฐธร ผบช.สตม. กล่าวว่า เรื่องนี้ ปบ.ตร.ได้กำชับให้ ประสานงานกับหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งภายในประเทศและก็ประเทศเพื่อนบ้านติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาให้ได้เนื่องจากเป็นคดีอุฉกรนจ์สะเทือนขวัญและเป็นที่สนใจของประชาชนเราเป็นหน่วยงาน 1 ปีถือว่าเป็นคณะกรรมการ TBCซึ่งมีทหารตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเรื่องนี้เราได้รับการประสานและได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากประเทศเพื่อนบ้านในการติดตามหาตัวจากการดูเส้นทางในการหลบหนีหลังจากก่อเหตุวันที่ 23 แล้วเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯวันที่ 24 มาค้างที่กรุงเทพ 1 คืนโดยพักแถวย่านรามอินทราซอย 8 และวันที่ 25 เดินทางไปยังจังหวัดเชียงราย ตอน 14.00น. และตรงไปยังที่ว่าการอำเภอแม่สาย มีนายเต็งหนึ่ง ผู้จัดการร้านเป็นคนเดินเรื่องขอมอเตอร์พาร์ทเพื่อเดินทางข้ามไปยังฝั่งแม่สายจากนั้นถึงแม่สายมาที่ร้านก็มืดแล้วจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าทำงานเลยพักอยู่ 3 วันและออกไปกับแขกคนที่ 27 ต่อวันที่ 28 ประมาณตี 3 ตี 4 ตระเวนพักตามที่ต่างๆ อาคารล้าง กระท่อมล้าง จนกระทั่งกลับออกมา ในเมืองท่าขี้เหล็กมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเราได้รับการประสานจากทางตำรวจท่าขี้เหล็กโดยเลือกไฟล์ผู้ประกอบการสถานบริการทั้งหมดรวมทั้งผู้ประกอบการที่พักมาประชุมเพื่อกดดันไม่ ให้รับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเข้าทำงาน และพักอาศัยเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พูดดูถูกกดดันและออกมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 3 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่าคือเราทุกวิถีทางเพราะเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจผมดูแล้วมันไม่ใช่เรื่องสลับซับซ้อนเส้นทางการหลบหนีแม้แต่การพักอาศัยซึ่งเขาก็ตัดสินใจมอบตัวอยู่ซึ่งก็หาวิธีมอบตัวอยู่แล้วผมถามเขาบอกว่สาเหตุที่มอบตัวเพราะอะไรเขาบอกว่าเขาไม่อยากให้คนที่เข้าไปพักด้วยหรือคนที่เกี่ยวข้องเดือดร้อนเขาบอกชัดเจนว่าเขาขอรับผิดชอบเขาไม่อยากให้ใครที่เข้าไปอาศัยด้วยได้รับความเดือดร้อนจากเค้าหลังจากที่คุยกันตั้งสติได้แล้วว่าสิ่งที่เราทำแบบมันมันผิดก็เลยคิดที่มอบตัว ส่วนนายเกล้านั้นไม่มี ยืนยันได้ บอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวแค้นสาเหตุที่ถูกจับกุมเรื่องยาเสพติดเขาก็บอกว่าเขาอยากมีสตางค์เหมือนคนอื่น ซึ่งเขามีพ่อ แม่ ต้องรับผิดชอบผมก็หยุดเพราะว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเค้านะครับว่าเขาจะไปหาเงินที่ไหนอย่างไร นะครับเขาบอกว่ามีพ่อแม่ที่จะเข้าดูแลอย่างน้อยเขาก็มีสามัญสำนึกในการรับผิดชอบคือเข้ามอบตัวมีความตั้งใจส่วนรายละเอียดอยู่ในสำนวนก็อย่างที่ผมเรียนไปแล้วนะครับว่า 1ปีถึงเค้าไม่เจอกันเนี่ยเค้าก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วนะ แต่มาเจอกันโดยบังเอิญก็เรียกคืนรถ กลับมาที่เกิดเหตุตรวจสอบอีกครั้ง แหล่งข่าวแจ้งว่า สาเหตุการเสียชีวืตครั้งนี้ น.ส.เปรี้ยว รับสารภาพว่า ผู้ตายขอยืมของไปและเอาเงิน ไปไม่เคารพรุ่นพี่ชอบหักหลัง ขณะที่เรียกผู้ตายมาพบมีการต่อว่าและเถียงกันอย่างรุนแรงขณะที่มีปากเสียงกัน น.ส.เปรี้ยวกับเพื่อนอีก 2 คนช่วยกันตบตีและบีบคอผู้ตายไม่คิดว่าจะตายเมื่อผู้ตายได้ตายแล้วพวกตนจึงนำศพขึ้นรถโดยมี พศินเป็นคนข้บ พวกตนปรึกษากันว่าถ้าเอาศพไปทิ้งน้ำศพจะลอยขึ้นมาจึงปรึกษากันว่าควรแยกชิ้นส่วนไปทิ้ง จึงซื้อเลื่อย มีด และขวานมาช่วยกันแยกร่างแล้วจึงนำมาฝังไว้ที่เขาสวนกวาง จากนั้นก็แยกกันกลับ