ทำคลองชลประทานพัง 2 จังหวัด /สั่งเจ้าหน้าที่รัฐเร่งเอาผิด นครปฐม : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)หนองกระทุ่ม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พันเอก ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รอง ผบ.พล.ร.9 พร้อมด้วย พันเอก พิทยากูล โพธิสุวรรณ เสธ.บก.ควบคุม พล.ร.9 และพันโท พลสันต์ รุ่งนิรันดร์ ผบ.ร้อย.รส.ม.พัน.19 พล.ร.9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี พันตำรวจเอก สุภเกียรติ เทิดตระกูล ผกก.สภ.กำแพงแสน , นายเชาวเนตร ยิ้มประเสริฐ นายอำเภอกำแพงแสน ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้ากรณี นายวิชัย จำเล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน ที่ได้มีการบุกรุกและทำลายคลองชลประทานส่งน้ำ ระบาย 5 ซ้าย ท่าสาร-บางปลา (ฝั่งซ้าย) ช่วง กม. 2+100-2+200 หมู่ 5 ต.หนองลาน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี และในส่วนของ หมู่ 7 ต.หนองกระทุ่ม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จนพังเสียหายรวมระยะทางประมาณ 300 เมตร ทำให้เกิดความเสียหายแก่ภาครัฐ ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในที่ประชุม ได้มีนายวิชัย จำเล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12 ตทุ่งลูกนก เข้ามาร่วมหารือและชี้แจงแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้าได้เคยมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าว และได้สั่งการให้มีการทำการซ่อมแซมคลองส่งน้ำที่หายไปขึ้นมาใหม่ ภายในระยะเวลา 6 เดือน แต่ต่อมาเรื่องนี้ได้เกิดมีการวิพากษ์วิจารณ์ในข้อการปฏิบัติ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วทั้งหมดเป็นเรื่องที่เข้าข่ายความผิดสำเสร็จแล้ว จึงมิอาจที่จะให้โอกาสได้อีก อีกทั้งผู้กระทำผิดก็เป็นยังดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน จึงต้องมีการหารือในหลายหน่วยงานเพื่อหาทางออกและแก้ไขในเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด พันเอก ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รอง ผบ.บก.ควบคุม พล.ร.9 กล่าวว่า ได้สั่งให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รีบเร่งรัดดำเนินการอย่างรวดเร็ว และให้หน่วยงานที่ได้รับความเสียหายทุกหน่วยงาน เร่งดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่กระทำผิด โดยบังคับใช้กฎหมายกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมเตือนเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอย่าละเว้น ไม่เช่นนั้นอาจโดนข้อหามาตรา 157 เพราะว่าการกระทำครั้งนี้นับว่าเป็นการลักลอบเอาทรัพย์ของแผ่นดินไปขาย อีกทั้งยังเป็นผู้ใหญ่บ้านและยังทำความผิดตามกฎหมายเสียเองอีกด้วย "การก่อความผิดเป็นเขตติดต่อรวม 2 จังหวัดคือ จ.นครปฐม และ จ.กาญจนบุรี จึงต้องทำตามกฎหมาย ไม่เช่นนั้นหน่วยงานราชการจะถูกมองว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ และในส่วนของ อ.กำแพงแสน จะต้องมีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดของ นายวิชัย จำเล ตามอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบที่มีโดยตรง เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดเสียเอง รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กำแพงแสน และ สภ.ท่าเรือ ต้องเร่งดำเนินการทางกฎหมาย ทำการตรวจยึดเครื่องมือในการดูดทรายเพื่อไม่ให้กระทำผิด และสั่งการให้ผู้กระทำผิดหาทรัพยากรในที่อื่นมาทำการซ่อมแซมในส่วนที่เสียหาย ไม่ใช่ให้ผู้กระทำผิดเอาทรัพยากร ในพื้นที่มาทำการซ่อมแซม และให้ร้อย รส.ม.พัน.19 ทำการตรวจสอบการปฏิบัติและรายงานผลให้ทราบอย่างต่อเนื่องโดยจะมีการติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างเคร่งครัดนับจากนี้" พันเอก ปิยพงศ์ กล่าว ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2560 ร้อยตำรวจโท ศักดิ์ดา คำมุงคุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.กำแพงแสน จัจ.นครปฐม รับแจ้งจากนายวิฑูรย์ กลิ่นบุศย์ นายช่างชลประทานปฏิบัติงาน ผู้แทนสำนักงานชลประทาน ฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 โครงการส่งน้ำ และบำรุงรักษาพนมทวน จ.กาญจนบุรี พร้อมทหารชุดปฏิบัติการพล.ร.9 กำแพงแสน เพื่อดำเนินคดีกับ นายวิชัย จำเล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12 ตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม หลังแอบลักลอบเข้ามาประกอบธุรกิจดูดทราย เพื่อทำการค้าโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ หมู่ 7 ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม และเขตพื้นที่ หมู่ 5 ตำบลหนองลาน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี รวมเนื้อที่กว่า 100 ไร่ จนเป็นเหตุให้คันคลองระบาย 5 ซ้าย ท่าสาร-บางปลา ช่วง กม.2+100 – กม.2+300 (ฝั่งซ้าย) ของกรมชลประทาน ได้รับความเสียหายเป็นระยะทาง 300 เมตร จากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจาก พล.ร.9 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กำแพงแสน ได้เดินทางไปตรวจสอบยัง หมู่ 7 ตำบลหนองกระทุ่ม แต่ไม่พบตัวนายวิชัยฯ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12 พบแต่เพียง นางสาววาณิชา จำเล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 12 ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม รับเป็นผู้ดูแลบ่อทรายดังกล่าว ผู็สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากการตรวจสอบไม่พบเครื่องจักร และคนงานในบริเวณบ่อทราย พบเพียงรถแบ็คโฮ จำนวน 1 คัน จอดเสียทิ้งไว้ข้างบ่อยทราย ส่วนรถแบ็คโฮและเรือดูดทรายบางส่วน ที่เคยเข้ามาตรวจสอบครั้งแรก นายวิชัยฯ ตัวได้ทำการขนย้ายหนีออกไปตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา หลังจาก เจ้าหน้าที่ทหาร จากพล.ร.9 ได้เชิญให้ไปชี้แจงในที่ประชุม เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดเครื่องบันทึกข้อมูล และกล้องวงจรปิดของบ่อทราย จำนวน 1 ชุด อายัดรถแบ็คโฮที่จอดอยู่บริเวณบ่อทรายไว้ด้วย 1 คัน ซึ่งในส่วนของคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียกนายวิชัยฯ มาทำการสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของ นายเชาวเนตร ยิ้มประเสริฐ นายอำเภอกำแพงแสน ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว โดยเรียกประชุมเจ้าหน้าที่โดยด่วน และจะได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อทำการสอบเรื่องที่เกิดขึ้น หากพบมีความผิดจริงจะต้องถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านทันที เพราะถือมีความผิดร้ายแรงเป็นเจ้าหน้าที่รัฐแต่กลับเป็นผู้ลักลอบดูดทรายเอาทรัพย์สินของแผ่นดินไปขาย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่กระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง