เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 9 มิ.ย. พล.ต.ต.สุธีร์ เณรกัณฐี รอง ผบช.น. พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รอง ผบก.น.5 พ.ต.ท.จิรกฤต จารุนภัทร์ รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ ร่วมกันนำกำลังชุดสืบสวนตำรวจ กก.สส.บก.น.5 ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.ทองหล่อ และ ตำรวจ บก.ทท. สนธิกำลังเข้าช่วยเหลือนายวาตานาเบ้ ซินามิ นักธุรกิจเจ้าของบริษัทจำหน่าย เครื่องมือแพทย์ ถูกคนร้าย 3 คนจับตัวมากักขังไว้ในห้องพักเลขที่ 719 ชั้น7 อพาร์ทเม้นต์ แกรนด์ ไฮ เทค ทาวเวอร์ภายในซอยเอกมัย 23 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ซึ่งหลังจากการบุกเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อ ก็พบนายวาตายาเบ้ ถูกมัดด้วยเคเบิ้ลไทด์อยู่บนเตียงนอน ในสภาพถูกทรมานจนขาขวาหัก จึงช่วยเหลือและนำส่งตัวไปรักษาตัวที่ รพ.บำรุงราษฎร์ ขณะเดียวกันก็สามารถจับกุมนายมาซาโตะ โคบาริ อายุ 49 ปี นายเลโอ ซูรุโซเอะ อายุ 41 ปี และนายคิโยโต้ มิยาตะ อายุ 57 ปี ทั้งหมดสัญชาติญี่ปุ่น ได้ภายในห้อง เจ้าหน้าที่จึงประสานกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานในห้องเกิดเหตุ พล.ต.ต.สุธีร์ รอง ผบช.น. กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ภรรยาและเพื่อนของนายวาตานาเบ้ แจ้งว่าไม่สามารถติดต่อนายวาตานาเบ้ ได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา เกรงว่าจะได้รับอันตราย เชื่อว่าน่าจะถูกเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างจับกุมตัวไป และได้ติดต่อมาที่ภรรยาชาวไทยว่าไม่ต้องตามหาสามี ทางภรรยาชาวไทยจึงเข้าขอความช่วยเหลือจากสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ก่อนเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ทองหล่อ เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข่าวก็พบความเคลื่อนไหว ว่า 1 ในแก๊งคนร้ายขับรถโตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน 5กฆ 2491 กรุงเทพมหานคร มาซื้อของปากซอยสุขุม26 ชุดสืบสวนสะกดรอยมาถึงห้องพักก่อนเข้าจับกุมคนร้ายไว้ได้ หากช้ากว่านี้เพียงวันเดียวคงกลายเป็นศพ รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ขึ้นรถสายตรวจ นำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ห้องฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ จากการสอบสวนทราบมูลเหตุหลังถูกจับกุมตัวไปเรียกค่าไถ่ทราบว่าเคยมีเรื่องขัดแย้งกับผู้รับเหมาชาวญี่ปุ่นด้วยกัน ว่า เมื่อ3 ปีก่อน นายวาตานาเบ้ ผู้เสียหายได้ว่าจ้างนายคิโยโต้ มิยาตะ รับเหมางานตกแต่งต่อเติมบ้านลูกค้าที่ประเทศญี่ปุ่นให้ โดยมีนายเลโอ ซูรุโซเอะ เป็นช่างก่อสร้าง ต่อมางานเสร็จไม่ทันเวลา ทำให้ลูกค้าปรับนายคิโยโต้ มิยาตะ วันละ 10,000 เยน ต่อมายังทราบอีกว่านายเลโอ ซูรุโซเอะ ได้ยักยอกทรัพย์สินของบ้านลูกค้าที่เข้าไปตกแต่งต่อเติม ได้ทรัพย์สินไปรวม 15 ล้านเยน จนถูกนายวาตานาเบ้ แจ้งความดำเนินคดี กระทั่งตำรวจญี่ปุ่นออกหมายจับ ต่อมานายวาตานาเบ้ หลบหนีเข้ามาทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือการแพทย์ในประเทศไทย มีภรรยาเป็นคนไทยพักอาศัยย่านแจ้งวัฒนะ โดยช่วงเย็นวันที่ 5 มิ.ย.นายคิโยโต้ มิยาตะ ออกอุบายโทรหานายวาตานาเบ้ นัดมาคุยธุรกิจที่ห้องพักย่านซอยสุขุมวิท 49 จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้ทำการจับกุมตัวนายวาตานาเบ้ ก่อนจะนำไปขังไว้ในห้องเลขที่ 26/10 ชั้น 3 คอนโด 49 สวีส กระทั่งวันที่ 6 มิ.ย. กลุ่มผู้ต้องหาได้ให้นายวาตานาเบ้ โทรไปหาภรรยาพูดเพียงสั้นๆว่า "สบายดีไม่ต้องเป็นห่วง" ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่ควบคุมตัวอยู่ที่ห้องพัก 3 วัน คนร้ายได้ซ้อมนายวาตานาเบ้ ให้บอกรหัสบัตรเครดิตที่ผู้เสียหายพกติดตัวไว้ ไปกดเงินสดไปจำนวน 20 ล้านเยน ต่อมาเช้าวันที่ 9 มิ.ย. กลุ่มผู้ต้องหาได้มาเช่าห้องที่แกรนด์ไฮเทค แล้วนำนายวาตานาเบ้ มาขังไว้ แล้วใช้ไม้เบสบอลตีจนขาขวาหัก และเตรียมลงมือฆ่าหั่นศพ กระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยไว้ได้ทัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า กลุ่มผู้ต้องหาเตรียมที่จะลงมือทำร้ายผู้เสียหายถึงแก่ชีวิต เนื่องจากมีการเตรียมอุปกรณ์ใบเลื่อย และอุปกรณ์พันธนาการ ถุงดำ และผ้ายางไว้แล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว และร่วมกันกรรโชกทรัพย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป