กองปราบฯคุมแก๊งซื้อ-ขายอาวุธสงครามผ่านขนส่งฝากขัง

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองปราบปราม คุมตัวนายสิทธิชัย ทองเชื้อ, นายเกษมสุข นามศรี, นายณัฐพล อยู่ยืด, นายณัฐพงศ์ ทองคำพันธุ์, นายศักดิ์สิทธิ์ จันทาป, นายประชิดชัย สุดสกุล และส.ต.ต.กฤตภาส ยิ้มละมัย รวม 7 คน ผู้ต้องหาที่สั่งซื้อเครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ที่กระทำผิดข้อหาซื้อ และครอบครองเครื่องกระสุน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ มายื่นคำร้องฝากขังผัดแรก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 – 21 มิ.ย. เนื่องจากต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 10 ปาก รอผลการตรวจประวัติอาชญากร รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลางและอื่นๆ โดยพนักงานสอบสวนแยกคำร้องฝากขังเป็นรายบุคคล กรณีผู้ต้องหาทั้งหมด สั่งซื้อเครื่องกระสุนปืน เอ็ม 16 และระเบิดทางอินเตอร์เน็ตจาก ส.อ.ธนาภรณ์ บุญกาญจน์ สังกัดกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ (รอ.) กับพวกทหารรวม 6 นายที่ถูกแยกดำเนินคดี และถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลทหาร โดยกลุ่มทหารได้ส่งของกลางเครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดทางพัสดุไปรษณีย์ผ่าน บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส จำกัด (ประเทศไทย) ไปยังที่อยู่ของผู้ต้องทั้งเจ็ด ก่อนเจ้าหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ทั้งนี้พฤติการณ์กระทำผิดของผู้ต้องหาทั้ง 7 โดยรายของนายเกษมสุข นามศรี ผู้ต้องหาที่สั่งซื้อวัตถุระเบิดเอ็มเค 2 จำนวน 2 ลูก และเอ็ม 67 จำนวน 2 ลูก รวม 4 ลูก ขณะที่ผู้ต้องรายอื่นสั่งซื้อเครื่องกระสุนปืนเอ็ม 16 คนละราว 100-200 นัด ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนกองปราบปรามขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้ว ไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาญาติของ ส.ต.ต.กฤตภาส ยิ้มละมัย นายณัฐพล อยู่ยืด นายประชิดชัย สุดสกุล และนายณัฐพงศ์ ทองคำพันธุ์ ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน และเงินสด ขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสี่ อย่างไรก็ตามศาลพิเคราะห์ในส่วนหลักทรัพย์ประกันของ ส.ต.ต.กฤตภาสและนายณัฐพล เห็นว่าไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากนายประกันมิได้ขึ้นทะเบียนไว้กับศาลอาญา จึงให้ยกคำร้อง ส่วนนายประชิดชัย และนายณัฐพงศ์ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า หลักทรัพย์มีความน่าเชื่อถือ จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสอง โดยตีหลักทรัพย์ประกันคนละ 3 แสนบาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คนไม่ได้ยื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัวพร้อมผู้ต้องหาอีก 2 คนที่ศาลไม่อนุญาตประกันตัวรวม 5 คนเข้าไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อไป สำหรับเจ้าหน้าที่ทหารที่กระทำความผิดประกอบด้วย ส.อ.ธนากรณ์ บุญกาญจน์ จ.ส.อ.ฉัตรชัย เอี่ยมสมบูรณ์ จ.ส.อ.ประดิพัทธ์ เสน่ห์ดี ร.ท.สันติ นามวิเศษ ส.อ.สุทธิโชค ไพเราะ และพลทหารสกลนที พรหมทอง รวม 6 นาย ถูกดำเนินคดีข้อหา เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ , ครอบครอง จำหน่ายและซื้อวัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ถูกคุมตัวไปฝากขังศาลทหารโดยแยกดำเนินคดีเป็นรายบุคคล ส่วนนายวิษณุ จันทร์เพ็ญ ผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำผิด สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ถูกอายัดตัวไปดำเนินคดี ขณะที่นายอิสระ อินทร์จันทร์ ถูกดำเนินคดีในพื้นที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายนเรนทร์ฤทธิ์ ทองสีทอง ถูกดำเนินคดีที่ สภ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี และจ.ส.อ.พลหงษ์ศาสน์ เสนาวงษ์ ถูกดำเนินคดีที่ จ.พิษณุโลก โดยตำรวจกองปราบปรามจะขออายัดตัว มาดำเนินคดีต่อไป