เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่11 มิ.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่บ้านเลขที่ 142 ม.6 บ.ท่านางเลื่อน ต.ชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.อภิชญา ยันทูล หรือทอมป๊อปปี้ เพื่อนสาวคนสนิทของ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม อายุ 22 ปี ซึ่งถูกคนร้ายทีมสวยหั่นศพก่อเหตุฆาตกรรมหั่นศพออกเป็น 2 ท่อนและตัดแขนข้างซ้ายก่อนมีผู้มาพบศพเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังญาติของผู้ตายยังคงติดใจการเสียชีวิต แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตับกุมตัวผู้ที่ก่อเหตุในคดีได้แล้วทั้งหมด
น.ส.อภิชญา กล่าวว่า เสียใจที่ครอบครัวน้องแอ๋มออกมาพูดในลักษณะเช่นนี้ ซึ่งที่ผ่านมาครอบครัวของตนเองและครอบครัวของผู้ตายรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นอย่างดี และการที่น้องแอ๋มต้องการเดินทางกลับมาอยู่ที่ขอนแก่นก็เพราะน้องอยากมาทำงาน อยากมาอยู่ด้วยกัน
"ทุกครั้งที่ครอบครัวถามก็จะบอกว่าน้องแอ๋มมาทำงานเป็นพนักงานต้อนรับ ที่โรงแรมดังแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น ซึ่ง น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิน 1 ในผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุฆาตกรรมป็นคนแนะนำงานให้ ซึ่งก็ทราบเรื่องส่วนตัวของน้องแอ๋มเพียงเท่านี้ แต่ในช่วงเวลาทำงาน หรือการคบกับใครอีกบ้าง เป็นเรื่องส่วนตัวของน้องแอ๋ม เมื่อน้องไม่เล่าให้ฟังก็ไม่ถาม"
น.ส.อภิชญา กล่าวต่ออีกว่า การที่ครอบครัวของผู้ตายออกมาระบุว่าตนเองเกี่ยวข้องกับการตายของน้องแอ๋ม เพราะเป็นคนชักชวนให้น้องมาทำงานที่ขอนแก่นนั้น ไม่เป็นความจริง และยังคงวิงวอนทุกคนว่าถ้าอยากให้วิญญาณน้องแอ๋ม สงบสุข และไปสู่สุขคติก็อยากให้หยุดพูด เพราะไม่ดีกับทุกฝ่าย อีกทั้งในแนวทางการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนเองได้ให้ปากคำและข้อมูลต่างๆกับทางเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ได้กันตนเองออกจากคดีดังกล่าวหลังสามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวนี้ได้ทั้งหมด 5 คน และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินคดีทางกฎหมาย
น.ส.อภิชญา กล่าวว่า เสียใจที่ครอบครัวน้องแอ๋มออกมาพูดในลักษณะเช่นนี้ ซึ่งที่ผ่านมาครอบครัวของตนเองและครอบครัวของผู้ตายรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นอย่างดี และการที่น้องแอ๋มต้องการเดินทางกลับมาอยู่ที่ขอนแก่นก็เพราะน้องอยากมาทำงาน อยากมาอยู่ด้วยกัน
"ทุกครั้งที่ครอบครัวถามก็จะบอกว่าน้องแอ๋มมาทำงานเป็นพนักงานต้อนรับ ที่โรงแรมดังแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น ซึ่ง น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิน 1 ในผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุฆาตกรรมป็นคนแนะนำงานให้ ซึ่งก็ทราบเรื่องส่วนตัวของน้องแอ๋มเพียงเท่านี้ แต่ในช่วงเวลาทำงาน หรือการคบกับใครอีกบ้าง เป็นเรื่องส่วนตัวของน้องแอ๋ม เมื่อน้องไม่เล่าให้ฟังก็ไม่ถาม"
น.ส.อภิชญา กล่าวต่ออีกว่า การที่ครอบครัวของผู้ตายออกมาระบุว่าตนเองเกี่ยวข้องกับการตายของน้องแอ๋ม เพราะเป็นคนชักชวนให้น้องมาทำงานที่ขอนแก่นนั้น ไม่เป็นความจริง และยังคงวิงวอนทุกคนว่าถ้าอยากให้วิญญาณน้องแอ๋ม สงบสุข และไปสู่สุขคติก็อยากให้หยุดพูด เพราะไม่ดีกับทุกฝ่าย อีกทั้งในแนวทางการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนเองได้ให้ปากคำและข้อมูลต่างๆกับทางเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ได้กันตนเองออกจากคดีดังกล่าวหลังสามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวนี้ได้ทั้งหมด 5 คน และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินคดีทางกฎหมาย