ฆ่าโหดเศรษฐีเจ้าของสวนลำไย วัย 70 ปี แม่ยายนายทหาร ถูกทุบด้วยของแข็งจนศีรษะยุบไปครึ่งซีก คนร้ายนำเงินของผู้ตายและรถปิกอัพไปด้วย แต่ถอยรถเสียหลัก ตกร่องริมถนน จึงต้องทิ้งรถหนีไป เบื้องต้นคาดเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ วันที่ 11 มิถุนายน 2560 เวลา 13.45 น.ร.ต.ท.สมพงษ์ บุญไทย ร้อยเวร สถานีตำรวจภูธรบ้านแปลง อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุฆาตกรรม บริเวณริมสวนลำไยภายในหมู่บ้านคลองบอน หมู่ที่ 4 ตำบลหนองตาคง อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้ง ร.ต.ท.สมพงษ์ บุญไทย ร้อยเวร สถานีตำรวจภูธรบ้านแปลง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี จุด อำเภอโป่งน้ำร้อน และแพทย์เวร โรงพยาบาลโป่งน้ำร้อน ตรวจสอบในที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนสายหลักหมู่บ้านคลองบอนเข้าไปภายในริมสวนลำไยกว่า 200 เมตร พบร่างนางวิไล จิตรสุนทร อายุ 70 ปี นอนหงายในเสื้อผ้าชุดคลุม หน้าผาก และศีรษะยุบไปครึ่งซีก จากการถูกทุบด้วยของแข็งอย่างรุนแรง ห่างจากร่างผู้ตาย พบท่อนไม้ 1 ท่อน ตกอยู่เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง รวมทั้งบริเวณปากทางเข้าสู่สวนลำไย ริมถนนสายหลักบ้านคลอนบอน ซึ่งห่างจากร่าง นางวิไลกว่า 200 เมตร พบรถปิกอัพโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 8158 จันทบุรี พลิกตะแครงกลางท้องร่องริมถนน ตรวจสอบภายในรถ พบเอกสารต่าง ๆ ของรถปิกอัพคันดังกล่าว ว่าเป็นรถของนางวิไล และเศษชิ้นเนื้อมนุษย์ติดอยู่บริเวณประตูริมประตูห้องผู้โดยสาร จากการสอบสวน นายปรีดา จิตรสุนทร อายุ 43 ปี หลานชายผู้ตาย ทราบว่า นางวิไลเป็นคนที่มีฐานะดี ทำสวนลำไยหลายร้อยไร่ ในจำนวนหลายแปลง โดยทำสวนลำไยอย่างเป็นลำเป็นสัน มีลูกจ้างทั้งคนไทย คนกัมพูชา ทำงานด้วยจำนวนมาก รวมทั้งยังเป็นแม่ยายของนายทหารรายหนึ่งโดยบุตรสาวแต่งงานกับนายทหาร นายปรีดา ให้ปากคำต่อไปว่า ก่อนที่นางวิไล จะเสียชีวิต คืนวันที่ 10 มิถุนายน นางวิไลและลูกน้อง พากันไปเที่ยวร้านคาราโอเกะภายใน อำเภอโป่งน้ำร้อน โดยใช้รถปิกอัพคันที่ตกท้องร่องเป็นพาหนะ กระทั่งเช็ดบิลค่าอาหาร นางวิไล มีเงินติดตัวไม่พอชำระ จึงนั่งรถคันดังกล่าวพร้อมด้วยลูกน้องกลับมายังสวนลำไย เพื่อนำเงินไปชำระค่าอาหาร แต่ปรากฏว่ามาเสียชีวิตในบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเงินที่นางวิไลกลับมาเอาก็หายไปด้วย จากการประเมินสภาพที่เกิดเหตุ และเศษชิ้นเนื้อมนุษย์ที่ติดอยู่กับประตูรถของนางวิไล เจ้าหน้าที่พบว่า คนร้ายลงมืออย่างใจเย็น รอให้นางวิไล กลับไปนำเงินก่อน เมื่อมาถึงรถปิกอัพของนางวิไล จึงทุบด้วยของแข็ง กระทั่งเศษชิ้นเนื้อจากร่างกายนางวิไล กระเด็นหลุดไปติดประตู จนแน่ใจว่านางวิไลเสียชีวิตแล้ว คนร้ายจึงได้นำเงินและรถปิกอัพไป โดยถอยรถจากจุดเกิดเหตุไปถึงถนนสายหลัก แต่รถเสียหลักตกในท้องร่อง จึงจำเป็นต้องทิ้งรถหลบหนีไป ซึ่งประเด็ดการฆาตกรรม เบื้องต้นเจ้าหน้าสันนิษฐานว่า เป็นการฆ่าชิงทรัพย์ จะเร่งสืบสวน สอบสวน หาคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป