12 มิ.ย.60 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ/ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่นายภราดร แก้วพาราดรัย กล่าวถึงเรื่องซื้อขายตำแหน่ง ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้รับทราบข่าวจากทางสื่อ ในประเด็นที่ที่เกิดขึ้น และไม่นิ่งนอนใจ ฝากขอบคุณด้วยว่าอะไรถ้าเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก็ดำเนินการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามต้องมีการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงเสียก่อน สำหรับเรื่องของการแต่งตั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ฝากเรียนว่าเรื่องการแต่งตั้งเป็นอำนาจหน้าที่ของ ผบ.ตร.แต่เพียงผู้เดียว ผบ.ตร.เป็นคนดำเนินการแต่งตั้ง และรับผิด รับชอบอยู่แล้ว หากมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจคงต้องมีการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง สำหรับ การแต่งตั้งมีกฎเกณฑ์ และมีหลักเกณฑ์ มีขั้นตอนวิธีการที่มีความชัดเจนโป่งใสอยู่แล้ว หากปรากฎข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทางท่านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หากมีการส่งเรื่องเข้ามาก็จะดำเนินการ ตามข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. ยินดีหากมีการส่งข้อมูลที่มีประโยชน์เข้ามา อย่างที่ได้เน้นย้ำว่าเรื่องการแต่งตั้งมีระเบียบมีขั้นตอน อย่างเรื่องของคำสั่งล่าสุดที่7/60 เรื่องขอการปรับปรุงระบบการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีความชัดเจนอยู่แล้ว และเป็นอำนาจของ ผบ.ตร.แต่เพียงผู้เดียวตรงนี้ถ้ามีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ท่านก็คงต้องดำเนินการ ส่วนถ้ามีการพาดพิงไม่ว่าจะเป็นประเด็นอะไรก็แล้วแต่ เกี่ยวเรื่องของการแต่งตั้งถ้าเป็นข้อมูลที่มีประโยขน์ ท่านได้ดำเนินการอยู่แล้ว กรณีที่ปรากฎเป็นข่าวตามสื่อ ท่าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. ได้สั่งให้ดำเนินการอยู่แล้วอีกส่วนหนึ่งซึ่งสื่อมวลชนก็ทราบอยู่แล้วว่า เรื่องของการแต่งตั้ง นับตั้งแต่เริ่มต้นที่ทำคำสั่งแต่งตั้ง จนคำสั่ง แต่งตั้งออกในปีนี้การแต่งตั้งพยายามทำให้สมบูรณ์ที่สุดไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น คงต้องรอสักพัก เรายินดีรับเรื่องข้อมูลให้ประโยชน์ เพื่อดำเนินการ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า เรื่องการแต่งตั้งมีหลักเกณฑ์บอกว่าชัดเจนอยู่แล้วเช่นเรื่องของระบบ อาวุโสกี่เปอร์เซ็นต์ และเรื่องของความรู้ ความสามารถกี่เปอร์เซ็นต์ที่เหลือก็เป็นเรื่องของการพัฒนาของผู้บังคับบัญชาการแต่งตั้งรอบนี้ ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจสูงสุดในการพิจารณาคือ ท่าน พล.ต.อ. จักรทิพย์ ผบ.ตร. อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งที่ผ่านมาทุกระดับชั้นมีการผ่านบอร์ดของกองบังคับการ กองบัญชาการ และบอร์ดของระดับ ตร. ตรงนี้เป็นความรับผิดชอบ ผบ.ตร.อยู่แล้วเท่าที่ทราบการแต่งตั้งแต่เริ่มมาตั้งแต่ต้นปีนี้อาจจะเป็นข้อมูลเก่าที่อยู่ในข่ายที่อยากจะต้องขยับขยายมันก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากนั้นมีการปรึกษากันในบอร์ดของภาค 4 ต้องดูในข้อมูลท้องถิ่น ข้อมูลพื้นฐานในหน่วยที่มีการดำเนินการขึ้นมาหลังจากที่ทราบมาเป็นประเด็น พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวถึง กรณีมีหนังสือแจ้งเตือนเหตุระเบิดทางภาคใต้ว่า เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ออกมาแจ้งเตืน ในส่วนของตำรวจเองนั้นไม่ได้มีนัยอะไรที่สำคัญ ในส่วนทางฝ่ายปกครองเราได้ประสานงานเรื่องข้อมูลอยู่แล้ว เพราะว่าในเขตพื้นที่ของภาค 8 เป็นพื้นที่ ที่เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยว ไปจำนวนมาก เช่นภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา เป็นเรื่องปกติที่เราต้องมีการบูรณาการด้านการข่าวกับทุกฝ่าย สำหรับประเด็นดังกล่าวเรื่องของฝ่ายปกครองนั้นก็คงจะเป็นการแจ้งให้มีการActiveในส่วนของตำรวจตรงนี้ยังไม่ได้มีอะไร การแจ้งเตือนอย่าลืมว่าในเรื่องการแจ้งข่าวนั้นกาข่าวกรองเราพยายามบูรณาการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นซึ่งทางเราได้ดำเนินการคัดเลือกการต่อต้านการข่าว กรองเป็นอย่างดี บางครั้งตัวผู้ก่อเหตุอาจจะก่อเหตุจริงๆ แต่ถ้ามีการป้องกัน มีการคัด กรอง มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดก็เป็นการจุดที่ทำให้มันเกิดความลำบากขึ้นเกิดอุปสรรคตัดช่องโอกาสที่จะกระทำความผิด สำหรับการดำเนินการมีการสั่งการโดยปกติอยู่แล้วแยกเป็น 2 ส่วน ในส่วนของเรื่องความมั่นคง มี พล.ต.อ.ศรีวรา เป็นผู้ดูแล และใน ส่วนของการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมมี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ดูแล ทำงานต่อประสานกันอยู่แล้ว