วันที่ 13 มิ.ย.60 ที่ สภ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)พร้อมชุดสืบสวนสอบสวน ลงพื้นที่ อ.กุยบุรีติดตามความคืบหน้า เหตุคดีทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่นเป็นเหตุให้ น.ส.ทิพย์สลาลี แกมไทย หรือครูกิ๊ฟ และนายสราวุธ แกมไทย นายราเชนทร์ หรือป๊อบ ปราชญ์เปรื่อง ถูกยิงเสียชีวิต มีผู้ได้รับบาดเจ็บ3 ราย โดยมีนายสมชาย เย็นใจ หรือเสี่ยน้อย เจ้าของแพกุ้งโชคศิริชัย และพวกเป็นผู้ยิง เหตุเกิดเมื่อวันที่2 มกราคม ที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 8มิถุนายน นายธนกฤต แกมไทย ผู้ใหญ่บ้านดงเกตุ หมู่ 9 ต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ บิดา น.ส.ทิพย์สลาลี หรือครูกิ๊ฟ และนายสราวุธ เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ว่าคดีไม่มีความคืบหน้า และกลุ่มผู้ต้องหา ใช้อิทธิพลข่มขู่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่าการลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อติดตามเร่งรัดคดี หลังจากผู้เสียหายเข้าร้องเรียนคดีนี้ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 5 ราย รวมทั้งนายสมชายซึ่งยังหลบหนีอยู่ต่อมาพนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนเพิ่มเติม และอนุมัติออกหมายจับนายสุกฤษ หรือหนู เย็นใจ หลานนายสมชาย ซึ่งได้เข้ามอบตัวและอยู่ระหว่างนำตัวฝากขังต่อศาล ประกอบกับคดีนี้นายตำรวจระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงมาติดตามเร่งรัดคดีขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า ไม่มีผู้มีอิทธิพลที่จะทำให้คดีนี้ไม่เป็นธรรม พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า กลุ่มญาติผู้ตายมีความกังวลอิทธิพในพื้นที่ ได้เร่งรัดคดีและยืนยันไม่มีอิทธิพลใดและพยานยืนยันว่านายสุกฤษ ร่วมก่อเหตุในวันที่ 2 มกราคม จริง สภาพแวดล้อม ไฟส่องสว่างในจุด เกิดเหตุทำให้คำให้การยืนยันของพยานเชื่อถือได้จึงขออนุมัติหมายจับจากศาล จากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะกัน โดยกลุ่มผู้ตายมีเรื่องวิวาทไม่พอใจที่ นายสุกฤษ ที่บีบแตรใส่คืนวันที่ 1มกราคม 60 มีการทำร้ายร่างกายกัน นายสุกฤษบาดเจ็บในครั้งแรก แต่ไม่ได้แจ้งความ มีการตามมาล้างแค้นวันที่ 2 มกราคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตแม้ นายสุกฤษ จะให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุการณ์ แต่ตำรวจมีหลักฐาน ส่วนนายสุกฤษ มีสิทธิต่อสู้ ในตอนแรกพนักงานสอบสวน ไม่ออกหมายจับเนื่องจากไม่มีพยานยัน แต่เมื่อพยานให้การชัด สอดคล้องสภาพแวดล้อม นำมาสู่การออกหมายจับ ก็ต้องว่าไปตามขั้นตอนกฎหมาย สำหรับคดีที่ฝั่งนายสุกฤษ แจ้งความกลับให้ดำเนินคดีกับ กลุ่มผู้ตายฐานพยายามฆ่าเป็นอีกเรื่องตำรวจให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ไม่อยากทำให้เป็น ชนวน ทะเลาะวิวาทกันอีก นอกจากนี้ชุดสืบสวนได้ออกติดตามจับกุมตัวนายสมชาย หรือเสี่ยน้อย เบื้งต้นยังไม่พบหลักฐานออกนอกประเทศ เว้นแต่ไปทางพรมแดนธรรมชาติ เชื่อว่านายสมชายจะเข้าพบตำรวจเนื่องจากมีกิจการอยู่ที่กุยบุรี น่าจะกลับมาสู้คดี ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าต่างฝ่ายทะเลาะกันก่อนและอ้างถึงนายธนกฤต ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งนายอำเภอกุยบุรี ได้รับเรื่องไปตรวจสอบ ในส่วนที่เกี่ยวข้องว่าละเลยหรือไม่อย่างไร นายสุกฤษ กล่าวว่า ยอมรับว่ามีเรื่องวิวาทกับกลุ่มผู้เสียชีวิตในวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมาตนเพียงบีบแตรทัก กลุ่มผู้เสียชีวิต ซึ่งก็รู้จักคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แต่กลับถูกท้าทายหาเรื่องและรุมทำร้ายตน ด้วยเครื่องชอร์ตไฟฟ้า ถ โดยนายธนกฤต แกมไทย ผู้ใหญ่บ้าน พ่อของครูกิฟท์ก็ไม่ห้าม ไม่ช่วย บอกเพียงค่อยคุยกันพรุ่งนี้ จึงไม่แจ้งความเห็นว่าคนกันเอง และวันรุ่งขึ้นตนก็ไม่ทราบเรื่อง เพราะนอนรักษาตัวที่บ้าน กรณีนี้ถูกกล่าวหาตนไม่ได้กระทำแต่อย่างใด และยังมีใบรับรองแพทย์ลงวันที่ 9 มกราคม ยืนยันตนได้รับบาดเจ็บ นายธนกฤต บิดาครูกิฟท์ กล่าวว่า ขอบคุณตำรวจที่ช่วยเร่งรัดคดี และให้ความเป็นธรรม จากนั้น พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ และ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ จำลองเหตุการณ์ นำพยานชี้ยืนยันเห็นนายสุกฤษ หรือ หนู ร่วมก่อเหตุในวันที่ 2มกราคมโดยใช้อาวุธมีดท่ามกลางกลุ่มญาติของทั้ง 2 ฝ่ายเฝ้าดูการทำงานของเจ้าหน้าที่และบางส่วนเดินทางไปที่ สภ.กุยบุรี เพื่อขอความเป็นธรรมให้ญาติของตัวเอง โดยทั้ง 2 ฝ่ายแสดงท่าทีไม่พอใจกัน