วันที่ 14 มิ.ย.60 ที่ สภ.บางเสาธง/ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป1) พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ท ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตารวจภูธรภาค 1 และ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธารงค์ รองผู้บัญชาการตารวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.อานาจ จันทร์เจริญ ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.กฤษณะคุณากร รอง ผบก.ฯ สส.ภ.1 , พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ, พ.ต.อ.เลิศชาย จาปาทอง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรปราการ , พ.ต.อ.สุเนตร หอกลาง ผกก.สภ.บางเสาธง พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส สว.กก.2 บก.ป.แถลงข่าวจับกุม นายวจะรัน ทัดสวรรค์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/5 ม.9 ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 616/2560 ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายและ น.ส.สุภาพร นนทรา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.10 ต.แสนสุข อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 617/2560 ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทาลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560 เวลาประมาณ 14.30 น ได้มีเหตุพบศพลอยน้ำในคลองสำโรง บริเวณท้ายซอยสุขาภิบาล 1(ซับแดง) ม.1 ต.ศรีษะจรเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ บริเวณสะพานข้าม คลองสาโรง เป็นหญิง ไม่ทราบสัญชาติ อายุประมาณ 10-15 ปี ผมยาว สีดา ใส่เสือโปโล สีขาวกางเกงขายาว ลาย ขาว แดง แนวตั้ง ห่อด้วยผ้าห่มสีน้ำเงินเทาด้านใน ผ้าปูที่นอนสีเขียว ขาว หุ้มด้านนอก มัดด้วยเชือกไนล่อน ขนาดใหญ่ ผูกติดกับกระสอบปุ๋ยที่บรรจุด้วยเศษปูนที่เหลือทุบจากการก่อสร้าง หนักประมาณ 10 กิโลกรัม
จากการสืบสวนทราบว่าผู้ตายน่าจะเป็น ด.ญ.พรทิพย์ กุลนานันท์ อายุ 10 ปี ซึ่งก่อนเกิดเหตุ พักอาศัยอยู่กับนายวจะรัน ทัดสวรรค์ ซึ่งเป็นพ่อเลียง และ น.ส.สุภาพร นนทรา มารดา ที่บ้านเช่าในหมู่บ้าน การเคหะบางพลี และหลังเกิดเหตุได้หายออกจากห้องพักไป ประกอบกับมีญาติของ ด.ญ.พรทิพย์ฯ มาติดตาม หาตัวที่ สภ.บางเสาธง และเมื่อดูภาพถ่ายศพที่พบดังกล่าวแล้วเชื่อว่าเป็น ด.ญ.พรทิพย์ฯ เจ้าหน้าที่ตารวจชุด จับกุมสืบสวนจนทราบว่า นายวจะรันฯ และ น.ส.สุภาพรฯ น่าจะหลบหนีไปยังภูมิลำเนาของนายวจะรันฯ ที่ ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี จึงได้ร่วมกันติดตามสืบสวนจับกุมตัวผู้ต้องหาทังสองได้ในที่สุด โดยแจ้ง ข้อหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทาลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการ ตาย ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 616/2560 และ 617/2560
จากการสอบสวนปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า น.ส.สุภาพรฯ ได้ทุบตีทาร้ายร่างกาย ด.ญ.พรทิพย์ฯ ซึ่งเป็นบุตรเพื่ออบรมสั่งสอนและ กักขังไว้ที่ห้องพัก ต่อมาเมื่อกลับจากทางานมาจึงพบว่า ด.ญ.พรทิพย์ฯ ได้นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว จึงได้ร่วมกันกับนายวจะรันฯ ทำการอาพรางศพด้วยการใช้ผ้านวมห่อหุ้มศพมัดด้วยเชือกถ่วงด้วยเศษก้อน ซีเมนต์ แล้วนำไปทิ้งนาที่บริเวณท่าเรือเก่าบริเวณริมคลองสาโรง แล้วจึงหลบหนีไป จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ ซึ่ง เจ้าหน้าที่ตารวจได้ร่วมกันนำตัวผู้ต้องหา ทังสองส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง เพื่อดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560 เวลาประมาณ 14.30 น ได้มีเหตุพบศพลอยน้ำในคลองสำโรง บริเวณท้ายซอยสุขาภิบาล 1(ซับแดง) ม.1 ต.ศรีษะจรเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ บริเวณสะพานข้าม คลองสาโรง เป็นหญิง ไม่ทราบสัญชาติ อายุประมาณ 10-15 ปี ผมยาว สีดา ใส่เสือโปโล สีขาวกางเกงขายาว ลาย ขาว แดง แนวตั้ง ห่อด้วยผ้าห่มสีน้ำเงินเทาด้านใน ผ้าปูที่นอนสีเขียว ขาว หุ้มด้านนอก มัดด้วยเชือกไนล่อน ขนาดใหญ่ ผูกติดกับกระสอบปุ๋ยที่บรรจุด้วยเศษปูนที่เหลือทุบจากการก่อสร้าง หนักประมาณ 10 กิโลกรัม
จากการสืบสวนทราบว่าผู้ตายน่าจะเป็น ด.ญ.พรทิพย์ กุลนานันท์ อายุ 10 ปี ซึ่งก่อนเกิดเหตุ พักอาศัยอยู่กับนายวจะรัน ทัดสวรรค์ ซึ่งเป็นพ่อเลียง และ น.ส.สุภาพร นนทรา มารดา ที่บ้านเช่าในหมู่บ้าน การเคหะบางพลี และหลังเกิดเหตุได้หายออกจากห้องพักไป ประกอบกับมีญาติของ ด.ญ.พรทิพย์ฯ มาติดตาม หาตัวที่ สภ.บางเสาธง และเมื่อดูภาพถ่ายศพที่พบดังกล่าวแล้วเชื่อว่าเป็น ด.ญ.พรทิพย์ฯ เจ้าหน้าที่ตารวจชุด จับกุมสืบสวนจนทราบว่า นายวจะรันฯ และ น.ส.สุภาพรฯ น่าจะหลบหนีไปยังภูมิลำเนาของนายวจะรันฯ ที่ ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี จึงได้ร่วมกันติดตามสืบสวนจับกุมตัวผู้ต้องหาทังสองได้ในที่สุด โดยแจ้ง ข้อหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทาลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการ ตาย ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 616/2560 และ 617/2560
จากการสอบสวนปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า น.ส.สุภาพรฯ ได้ทุบตีทาร้ายร่างกาย ด.ญ.พรทิพย์ฯ ซึ่งเป็นบุตรเพื่ออบรมสั่งสอนและ กักขังไว้ที่ห้องพัก ต่อมาเมื่อกลับจากทางานมาจึงพบว่า ด.ญ.พรทิพย์ฯ ได้นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว จึงได้ร่วมกันกับนายวจะรันฯ ทำการอาพรางศพด้วยการใช้ผ้านวมห่อหุ้มศพมัดด้วยเชือกถ่วงด้วยเศษก้อน ซีเมนต์ แล้วนำไปทิ้งนาที่บริเวณท่าเรือเก่าบริเวณริมคลองสาโรง แล้วจึงหลบหนีไป จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ ซึ่ง เจ้าหน้าที่ตารวจได้ร่วมกันนำตัวผู้ต้องหา ทังสองส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง เพื่อดำเนินคดีต่อไป