รมว.แรงงานนำคณะผู้แทนไทยร่วมประชุม ILO “พล.อ.ศิริชัย”น้อมนำ เศรษฐกิจพอเพียงมุ่งสู่ Green Job ส่งเสริมงานมีคุณค่าสู่เวทีโลก วันที่13 มิ.ย. 60 พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำคณะผู้แทนจากประเทศไทย เข้าร่วมประชุม องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) สมัยที่ 106 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส พร้อมยื่นจดทะเบียนสัตยาบันสารอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 111 ซึ่งเป็นอนุสัญญาว่าด้วยความเท่าเทียมในการจ้างงานและอาชีพ ในการนี้พล.อ.ศิริชัย ได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมรายงานของผู้อำนวยการใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ เรื่อง "การทำงานในภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง : ข้อริเริ่มสีเขียว” ประเทศไทยได้น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง (ของในหลวงรัชกาลที่ 9) ซึ่งเป็นหลักการโดยมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคม และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม โดยกว่า 7 ทศวรรษ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า เป็นเงื่อนไข ที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนประเด็นเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ การสร้างงานที่มีคุณค่าให้แก่ประชาชนพร้อมทั้งเป็นการแก้ไขปัญหาการทำลาย ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนถึงความยั่งยืนระยะยาว มากกว่าการแสวงหาประโยชน์โดยไม่รับผิดชอบในระยะสั้น เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งสอดคล้องกับ ILO ที่เห็นว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจสีเขียวนั้นจะต้องเป็นธรรม และครอบคลุม ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนสามารถทำงานและดำรงชีวิตได้อย่างกลมกลืนกับเศรษฐกิจสีเขียว เป็นสิ่งจำเป็นที่จะนำไปสู่การกระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นว่าอนาคตของเศรษฐกิจที่มีความสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิต และการจ้างงาน ตามปณิธานของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่มุ่งมั่นจะพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่มีความเจริญรุ่งเรือง และต้องทำงานร่วมกับองค์กรนายจ้างและลูกจ้าง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยที่ผ่านมานั้น เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่นไปสู่เศรษฐกิจที่มีการเจริญเติบโตสูงและความยั่งยืนของสิ่แวดล้อม รัฐบาลไทยได้ดำเนินมาตรการ เพื่อที่จะพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่ผู้ทำงาน เพื่อให้มีความสามารถพร้อมรองรับเศรษฐกิจสีเขียว โดยการพัฒนาให้สามารถที่จะใช้วัสดุและสารเคมีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการบริหารจัดการของเสียที่มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับเศรษฐกิจและการผลิตสีเขียว นอกจากการมุ่งเน้นในการพัฒนาทุนมนุษย์และเสริมสร้างศักยภาพแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับคุณค่าที่แท้จริงของความยั่งยืนในระยะยาวมากกว่าผลประโยชน์ที่ไม่รับผิดชอบ ในระยะสั้น เพื่อสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นสำหรับการพัฒนาสังคมสีเขียว ซึ่งรัฐบาลได้นำมาเป็นกรอบแนวคิดในการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไว้ด้วยแล้ว จากถ้อยแถลงข้างต้นสร้างความพึงพอใจแก่ผู้เข้าร่วมการประชุมทั่วโลก พร้อมแสดงความยินดีที่ประเทศไทยมีทิศทางชัดเจนและเอาความริเริ่มสีเขียวแห่งศตวรรษไปเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปอนาคต แห่งการทำงาน และการสอดส่องดูแลเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่ายว่าการก้าวไปข้างหน้าย่อมจะก่อให้เกิดประโยชน์เป็นที่ประจักษ์ต่อทั้ง ILO และสมาชิกไตรภาคีขององค์กร