เมื่อวันที่ 25 ก.ค. เวลา 10.15 น. นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีปัญหาการจัดหาไม้สักเพื่อใช้ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ว่าในวันนี้ได้เชิญตัวแทน 4 ฝ่าย ประกอบด้วย บริษัทผู้ออกแบบ บริษัทผู้รับเหมา บริษัทที่ปรึกษากฎหมายก่อสร้าง และคณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ได้ข้อยุติโดยบริษัทผู้ออกแบบยืนยันว่ามีความจำเป็นต้องใช้ไม้สัก เพราะเป็นองค์ประกอบสำคัญ และเป็นเอกลักษณ์ความเป็นไทย ซึ่งการก่อสร้างอาคารสำคัญต้องใช้ โดยช่วงการออกแบบได้สอบถามไปยังองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) แล้วยืนยันว่าสามารถจัดหาไม้สัก จำนวน 5,018 ท่อนได้จากป่าปลูกไม่ใช่ธรรมชาติ และเมื่อเกิดปัญหาได้สอบถามไปยังอ.อ.ป.อีกครั้ง ได้คำตอบด้วยวาจาว่ายังจัดหาไม้ได้ ซึ่งต้องรอหนังสืออย่างเป็นทางการอีกครั้ง ขณะที่ผู้รับเหมาก็ไม่มีปัญหาอะไร แค่ส่งไม้ให้ทันตามเวลาจะได้ไม่ล่าช้า ดังนั้น ทุกอย่างจะเดินหน้าไปตามสัญญา เว้นแต่เกิดข้อขัดข้องจากฝ่ายใดก็จะต้องร้องขอมายังรัฐสภา นายพรเพชร กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างมาก สามารถทุบอาคารต่างๆได้แล้ว แต่ยังมีชุมชนองค์การทอผ้า ที่ยังไม่ทราบว่าจัดการอย่างไร หากยังไม่ออกก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งใช้มาตรการจิตวิทยาสังคม เพราะถ้าส่งพื้นที่เรียบร้อยภาระหนักของเราก็จะหมดสิ้นไป ส่วนที่ผู้รับเหมาขอขยายระยะเวลาก่อสร้างอีก 600 วันนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้หนังสือจากบริษัทผู้รับเหมา หากมีการร้องขอก็ต้องประเมินว่าเขามีเหตุผลอย่างไร “เรื่องไม้สักไม่มีปัญหา แต่ปัญหาน่าหนักใจของสัญญาฉบับนี้คือการส่งมอบพื้นที่ไม่ได้ แต่ยืนยันว่าผมจะไม่เสียอะไรง่ายๆ จะรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ดังนั้น อะไรที่จะเกิดปัญหาก็ต้องเดินหน้าไปตามสัญญา” นายพรเพชร กล่าว