วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน 2560 ที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ บช.ภ.1ตามนโยบายรัฐบาลในการป้องกันปราบปรามและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของยาเสพติดให้ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดผลกระทบที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนและสังคม โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. ในฐานะ ผู้อานวยการ ศูนย์อานวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สานักงานตารวจแห่งชาติ พล.ต.ท. ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วยผบ.ตร.พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ. 1พล.ต.ต. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธารงค์ รองผบช.ภ. ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ในสังกัดตารวจภูธรภาค 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนบูรณาการกำลังร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 1 และ นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ปปส. นายพรพัฒน์ สุวรรณภูมิ ผู้อานวยการสานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 1 พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกาเนิด ผบก.ปส. 3 กองบัญชาการตารวจ ปราบปรามยาเสพติด และ และพันเอก ธนสิน สุขโข รองเสนาธิการ กองทัพภาคที่ 1 เปิดแผนยุทธการ “ปฏิบัติการ Task Force และยุทธการ 1386 ทั่วไทย ประชาชนปลอดภัยจากยาเสพติด” พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่าปัจจุบัน ขบวนการค้ายาเสพติดมีการพัฒนาทั้งรูปแบบและวิธีการกระทาความผิดอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันการถูก จับกุมจากเจ้าหน้าที่รัฐ ขบวนการค้ายาเสพติด จึงมีการแบ่งหน้าที่กันทางานเป็นระบบและเครือข่าย ซึ่ง เป็นอุปสรรคสาคัญต่อการที่จะปราบปรามให้สิ้นซาก ถึงแม้ต่อมาจะมีกฎหมายกาหนดโทษผู้กระทาผิดใน ข้อหา สนับสนุน และสมคบ ก็เป็นการยากที่จะรวบรวมพยานหลักฐานในการที่จะให้ศาลพิพากษาลงโทษ ผู้กระทาความผิดเหล่านี้การปฏิบัติการในครั้งนี้ ได้ให้ความสาคัญกับการปราบปรามยาเสพติดในระดับเครือข่าย รายสาคัญในพื้นที่ เพื่อที่จะทาลายให้ถึงโครงสร้างของขบวนการ โดยใช้กฎหมายทุกฉบับมาดาเนินการ ทั้ง ต่อตัวผู้กระทาผิดและทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทาผิด ที่ผ่านมาได้มีการสืบสวนขยายผลจากผู้เสพไปยัง ผูค้ารายย่อย ผู้ค้าระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ถึงระดับจังหวัด และผู้กระทำผิดที่อยู่ในเรือนจำ จนนาไปสู่ การรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับในข้อหาสมคบและสนับสนุนและศาลได้ออกหมายจับ ผู้กระทาผิด ซึ่งผู้กระทาผิดในข้อหานี้ส่วนใหญ่อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับของกลางในรูปแบบตัวยาโดยตรง แต่ จะเกี่ยวข้องในลักษณะมีความสัมพันธ์ทางการเงิน ไปจนถึงระดับ สั่งการ เป็นต้น สำหรับการบูรณาการกาลังร่วมกันปฏิบัติการ Task Force ในวันที่ 16 มิถุนายน 2560 และยุทธการ 1386 ทั่วไทย ประชาชนปลอดภัยจากยาเสพติด ในรอบเดือน มิถุนายน 2560 มีผลการการจับกุมทั้งสิ้น 442 ราย ผู้ต้องหา 464 คน ผู้ผลิต 6 ราย ผู้จำหน่าย จำนวน 30 ราย 40 คน ครอบครองเพื่อจาหน่าย จำนวน 145 รายและครอบครอง 190 คน ผู้เสพ 31 คน และสมคบ 24 ราย 24 คน ผู้ต้องสมัครใจบาบัด 64 คน ผู้ต้องหาตามหมายจับยาเสพติด จานวน 4 หมาย ของกลางยาบ้า จานวน 1,250,908.5 เม็ดยาไอซ์ 282.26 กรัม กัญชา 13.20 กิโลกรัมพืชกระท่อม 2 ต้น โคเคน 1.08 กรัม 2.6 เคตามีน 1.00 กรัมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน 35 กระบอก กระสุนปืน จานวน 139 นัด พร้อมตรวจยึดทรัพย์ รวมมูลค่าทรัพย์สิน 48,154,211 บาท เงินสดในบัญชี 9,210,011 บาท บ้านพร้อมที่ดิน 6 หลัง ที่ดิน 3 แปลง มูลค่า 22,131,000 บาท รถยนต์ 17 คัน มูลค่า 13,370,000 บาท รถจักรยานยนต์ 10 คัน มูลค่า 565,000 บาท ทองรูปพรรณ จานวน 60 บาท มูลค่า 1,182,500 บาท ทรัพย์สินอื่นๆ มูลค่า 1,695,700บาท พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวอีกว่า การปฏิบัติการปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดสาคัญ (Task Force ) และยุทธการ 1386 ทั่วไทย ประชาชนปลอดภัยจาก ยาเสพติด” ในครั้งนี้ เป็นการดาเนินการตามมาตรการเชิงรุก สนธิกาลังและบูรณาการเพื่อการปราบปราม ผู้กระทาความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ขยายผลการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องและยึดทรัพย์สินเพื่อทาลาย เครือข่ายและโครงสร้างการค้ายาเสพติดรายสาคัญในพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพปัญหา การแพร่ระบาดยาเสพติดของประเทศ ซึ่งตารวจภูธรภาค 1 จะดาเนินการขับเคลื่อนตามมาตรการเชิงรุก อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมบูรณาการกาลังจากทุกภาคส่วน เพื่อให้ประชาชนและสังคมโดยรวมมีความสงบสุขทั้งนี้หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนหรือได้รับความเสียหายจากการกระทาผิดเกี่ยวกับ ยาเสพติด หรือพบเบาะแสในการกระทาผิด พบเห็นบุคคลต้องสงสัยหรือบุคคลที่หลบหนีหมายจับ ขอให้ แจ้งข้อมูลมายัง ตารวจภูธรภาค 1 ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0-2936-2725 , 0-2537-8578-97 เว็บไซด์ www.p1.Police.go.th และ Facebook ตารวจภูธรภาค 1 https://th-th.facebook.com/RTP.p1 และ สายด่วน สานักงาน ป.ป.ส. โทร 1386