ร่วมมือเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม สนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 (1) ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ยาวนาน70 ปีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงให้ความสำคัญกับการเสียสละเพื่อส่วนรวมและการรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของชาติเสมอมา ดังจะเห็นได้จากพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่ทหารในโอกาสต่างๆ และหน้าที่พื้นฐานของทหารที่กำหนดไว้ว่า ในยามปกติเมื่อถึงคราวที่ปกป้องประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ชาติจำเป็นต้องเตรียมกำลังรบไว้เพื่อพร้อมที่จะรับเหตุการณ์ฉุกเฉินอันอาจจะเกิดขึ้นได้จากศัตรูทั้งภายในและภายนอกประเทศ ดังพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ว่า “แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์” กล่าวคือ สงครามหรือเหตุการณ์อันไม่สงบอาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็อาจดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องเตรียมกำลังรบไว้ให้พร้อม แม้ในยามปกติ เพื่อให้ทุกๆคนที่เป็นกำลังของชาติมีความรู้ในการใช้อาวุธ และหลักการรบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระราชดำรัสที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญกับการปฏิบัติหน้าที่อย่างสมบูรณ์และการมีจิตสำนึกแห่งการเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม “...ชาติบ้านเมือง คือ ชีวิต เลือดเนื้อ และสมบัติของเราทุกคน และการดำรงรักษาชาติประเทศนั้น มิใช่หน้าที่ของบุคคลผู้ใดหมู่ใดโดยเฉพาะ หากแต่เป็นหน้าที่ของทุกๆ ฝ่ายทุกๆคน ที่จะต้องร่วมมือกระทำ พร้อมกันไปโดยสอดคล้องเกื้อกูลกัน...” พระราชดำรัสพระราชทานในพิธีตรวจพลสวนสนาม เนื่องในโอกาสพระราชพิธีรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2515 “...บ้านเมืองของเราเป็นปึกแผ่นมั่นคงและร่มเย็นเป็นสุขสืบมาช้านาน เพราะเรามีความยึดมั่นในชาติและต่างบำเพ็ญกรณียกิจตามหน้าที่ให้สอดคล้องเกื้อกูลกัน เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชาติ คนไทยทุกคนจึงควรจะได้ตระหนักในข้อนี้ให้มาก แล้วตั้งใจประพฤติตัวปฏิบัติงานให้สมแก่ฐานะและหน้าที่ เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวม คือความมั่นคงปลอดภัยของชาติบ้านเมืองไทย...” พระราชดำรัสพระราชทานในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2556 ในสังคมไทย ทหารเป็นหนึ่งในกลุ่มคณะบุคคลที่จงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างหาที่สุดมิได้ ทหารแต่ละคนมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติต่อผู้ที่ตนเกี่ยวข้อง อย่างเสียสละ อดทนในระดับสูงสุดของชีวิต คือ พลีชีพเพื่อชาติ เพื่อให้เกิดผลดีแก่ประชาชน ประเทศชาติ หน่วยที่ตนสังกัดและตนเอง ดังข้อมูลเกี่ยวกับหน้าที่และความรับผิดชอบของทหาร ดังนี้ครับ การปฏิบัติต่อหน้าที่ ทหารต้องรักษาหน้าที่อย่างเคร่งครัดแม้จะต้องพลีชีพก็ยอม เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา รับผิดชอบและเอาใจใส่ในหน้าที่ของตน โดยไม่ผลักภาระไปให้ผู้อื่น ตลอดจนให้มุมานะพยายามและอุตสาหะบากบั่นต่อหน้าที่ของตน และให้หมั่นพิจารณาไตร่ตรอง สอบสวนเหตุผลในหน้าที่ของตน ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างกล้าหาญและเที่ยงธรรม การปฏิบัติต่อบุคคลแต่ละระดับ ประกอบด้วย ต่อผู้บังคับบัญชา ต่อผู้ใหญ่ ต่อเพื่อนทหาร และต่อพลเมือง การปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้บังคับบัญชา ทหารต้องปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชา อย่างซื่อสัตย์ กตัญญูและจงรักภักดี อ่อนน้อม ไม่เย่อหยิ่ง ไม่ลบหลู่หรือไม่ตีเสมอผู้บังคับบัญชา ตลอดจน ให้อภัยท่านในข้อที่ตนไม่พอใจ ไม่ถือโทษโกรธเคืองหรือผูกใจเจ็บแค้นในตัวผู้บังคับบัญชา และไม่กระทำการใดๆ ให้เป็นที่เดือดร้อนรำคาญต่อผู้บังคับบัญชา (อ่านต่อ..)