มติบอร์ดสกสค.ยกเลิกเอ็มโอยู"ออมสิน"-ส่วนเงินกู้ไว้คุยนัดหน้า นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธการ เปิดเผยภ่ายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (บอร์ด สกสค.) ว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมเพื่อรับฟังความคืบหน้าการแก้ปัญหาของ สกสค.โดยที่ประชุมได้แจ้งเรื่องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายเกษม กลั่นยิ่ง อดีตประธานที่ปรึกษาเลขาธิการ สกสค.กับพวก รวม 20 คน กรณีอนุมัติซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 2,100 ล้านบาท และ 400 ล้านบาท จากบริษัทบิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด โดยมิชอบ ซึ่งกรณีนี้กำลังรอ ป.ป.ช.แจ้งหนังสือมายังกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อย่างเป็นทางการ ว่าคนเหล่านี้อยู่ที่ไหนบ้าง ถ้ายังทำงานอยู่ก็ต้องตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนวินัย ใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิด อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่กรณีของบริษัท บิลเลี่ยน มีความก้าวหน้ามาถึงจุดสุดท้ายแล้ว นอกจากนี้ยังมีการรายงานความคืบหน้ากรณีบริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด ส่วนโครงการหอพักครูเชียงใหม่ ก็มีการรายงานให้รับทราบว่าให้ยุติโครงการเรียบร้อยแล้ว รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีของธนาคารออมสิน ที่หักเงินกองทุนโครงการสวัสดิการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา(ช.พ.ค.) ที่ประชุมมีมติให้ยกเลิกความร่วมมือ(MOU)เดิม ที่เคยทำไว้ทั้งหมดก่อนหน้านี้ทันที เพราะทราบว่าทางธนาคารออมสินมีทีท่าว่าจะยึดสัญญาเดิม ไม่ดำเนินการตามที่ตกลงกับตนไว้ว่า จะมีการทำความร่วมมือกันใหม่ "วันนี้ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องการกู้เงินเพื่อมาแก้ไขปัญหาภายใน สกสค. ซึ่งการประชุมครั้งต่อไปจะมีการหารือเรื่องเงินกู้ทั้งหมด เพราะขณะนี้ครูกู้เงินกว่า 5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการประกันชีวิต ที่มีค่าคอมมิชชั่น เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย สำหรับปัญหาขององค์การค้าฯ นั้นจะมีเชิญผู้เชี่ยวชาญ เข้าร่วมประชุมเพื่อวิเคราะห์หนี้สินและปรับโครงสร้างหนี้ขององค์การค้าฯ ที่มีอยู่ 5,000 กว่าล้านบาท ซึ่งรวมถึงหนี้ที่ต้องจ่ายพนักงานฯ ตามคำสั่งศาลด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมอีกครั้งในเร็วๆ นี้" นพ.ธีระเกียรติ กล่าว