วันที่ 24 ส.ค.59 เวลา 16.00น. ที่ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากรที่ 2 (ขาเข้า) สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกับพลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ แถลงข่าวกรมศุลกากรจับกุมสินค้าประเภทไม้และไม้แปรรูปพยายามลักลอบส่งออก โดยลักลอบบรรจุมากับตู้สินค้าผ่านแดนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 20 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่าของกลางรวมทั้งสิ้นกว่า 40 ล้านบาท ตามที่กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบ หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อกำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งขจัดอิทธิพลกลุ่มขบวนการลักลอบค้าของเถื่อน รวมถึงสินค้าผ่านแดนที่อาจมีการลักลอบนำสินค้าภายในประเทศซึ่งจะต้องขออนุญาตจากหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้นายจำเริญ โพธิยอด ที่ปรึกษาด้านพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี มอบหมายให้นายวรวุฒิ วิบูลย์ศิริชัย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม และนายกิตติ สุทธิสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปราม ต่อมาเมื่อวันที่พุธที่ 20 กรกฎาคม 2559 เจ้าหน้าที่ศุลกากร สำนักสืบสวนและปราบปราม นำโดยนายพงษ์ศักดิ์ ธนะวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 1 และนายกิติภูมิ คีรีวรรณ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามที่ 3 ได้เข้มงวดในการตรวจสอบสอบใบขนสินค้าผ่านแดนเป็นพิเศษ และพบสิ่งผิดปกติและมีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องสำหรับใบขนสินค้าผ่านแดนเลขที่ 2901 25907 00091 ซึ่งสำแดงชนิดสินค้าเป็นถ่านไม้ COMPRESSED ASH OF WOOD ขนส่งโดยบริษัทเอเชีย ทรานส์ไลน์ จำกัด โดยจะขนส่งผ่านแดนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเข้าทางด่านศุลกากรหนองคาย ไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้รับคือ HONGKONG WORLD LOGISTICS LIMITED โดยจะส่งออกทางท่าเรือแหลมฉบัง เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ประสานงานกับฝ่ายสืบสวนและปราบปราม และศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อทำการตรวจสอบภาพเอกซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์หมายเลข TSLU0226949 และ FCIU5407703 ผลการตรวจสอบ พบว่า ภาพเอกซเรย์มีลักษณะทางกายภาพไม่ตรงตามที่สำแดงในใบขนสินค้าผ่านแดนและไม่ตรงกับภาพเอกซเรย์จากท่าต้นทางที่ด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวคือภาพเอกซเรย์ต้นทางมีลักษณะเป็นถ่านไม้ แต่ภาพเอกซเรย์ที่ท่าปลายทางที่ท่าเรือแหลมฉบังจะมีลักษณะคล้ายไม้ท่อนและไม้แปรรูป เจ้าหน้าที่ฯ จึงติดตามขยายผลและตรวจสอบใบขนสินค้าผ่านแดนเพิ่มเติมและพบว่า สินค้ามีลักษณะทางกายภาพไม่ตรงกับที่สำแดงไว้เช่นเดียวกัน ตามใบขนสินค้าผ่านแดนเลขที่ 2901 25907 00171 , 2901 25907 00182 และ 2901 25907 00269 รวมจำนวน 18 ตู้คอนเทนเนอร์ เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ประสานไปยังท่าเทียบเรือและทำการอายัดตู้สินค้ารวมจำนวนทั้งสิ้น 20 ตู้ เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ในการนี้กรมศุลกากรเชิญผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ประจำราชอาณาจักรไทย และผู้แทนบริษัท เอเชียทรานส์ ไลน์ จำกัด ร่วมกันเปิดตรวจสินค้าผ่านแดนดังกล่าวในวันนี้ ผลการตรวจสอบพบเป็นสินค้าประเภทไม้ที่มีลักษณะเป็นไม้ซุงและไม้แปรรูป ซึ่งตามปรกติสินค้าดังกล่าวมีอัตราอากร ตามภาค 3 ประเภท 5 อัตราอากร 40 % และเป็นไม้หวงห้าม ประเภท ก ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 เป็นของควบคุมการส่งออกตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ไม้เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2555 ลงวันที่ 11 เมษายน 2555 ตาม พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 กรณีการกระทำดังกล่าวจึงเป็นความผิดฐานสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้าม ข้อกำกัด ตามมาตรา 99, 27 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบกับมาตรา 16, 17 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482, พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 เจ้าหน้าที่ฯ จะดำเนินการอายัดของกลางดังกล่าวไว้ทั้งหมดและดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป อนึ่ง การปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงตามพระราชบัญญัติศุลกากร มีการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นตามนโยบายของกรมศุลกากร เพื่อเป็นการขจัดอิทธิพลและการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบของกลุ่มขบวนการค้าของเถื่อน ซึ่งของกลางในครั้งนี้รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท และหากสินค้าดังกล่าวสามารถส่งออกไปยังประเทศที่ 3 ได้มูลค่าของสินค้าก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึงกว่า 315 ล้านบาท