ที่ สน.พญาไท เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 ม.ย.60 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.ส.4 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มือระเบิดแจกันดอกไม้ ที่รพ.พระมงกุฏเกล้า และอีกหลายจุดทั่วกรุง ทั้งในปี 60 และปี 50 ตามหมายจับ 7 หมาย ในข้อหา "พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" "กระทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นได้รับอันตรายสาหัส" มีและใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย" "มียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" เพื่อไปขออำนาจศาลอาญารัชดาภิเษก ฝากขัง นายวัฒนา สวมเสื้อโปโล สีเทา กางเกงผ้าขายาว สีน้ำตาล รองเท้าแตะ ใส่หน้ากากอนามัย และเสื้อเกราะ มีสีหน้านิ่งเฉย และท่าทางอ่อนเพลีย โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ควบคุมตัวแยกขังเดี่ยว โดยไม่มีญาติหรือคนรู้จักมาติดต่อขอเยี่ยม พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า นำกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายวัฒนา ออกจาก สน.พญาไท ไปที่ศาลอาญา รวม 7 หมาย และข้อหาตามที่เสนอข่าว โดยคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ส่วนเรื่องรายละเอียดการสอบปากคำผู้ต้องหา ภรรยา และคนใกล้ชิด เป็นเรื่องในสำนวนไม่สามารถเปิดเผย สำหรับการประกอบวัตถุระเบิดนั้น จะทำได้หรือไม่ได้นั้น ไม่มีผล เพราะมีผลการตรวจ รายงานจาก กองพิสูจน์หลักฐาน เป็นดีเอ็นเอในวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุตรงกัน นอกจากนี้การกระทำดังกล่าวจะเข้าข่าย ก่อการร้ายหรือไม่ ต้องดูองค์ประกอบข้อกฎหมายต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ช่วงเช้า ได้มัการนำตัวนายวัฒนา ไปทำประวัติข้อมูล และจากการตรวจสอบไม่พบว่าเคยต้องโทษคดี นอกจากนี้เมื่อคืนยังมีการนำท่อพีวีซี ชิ้นส่วนอิเล็กโทนิคส์ และอุปกรณ์อื่นๆ มาให้สาธิตการประกอบระเบิด ซึ่งนายวัฒนา สามารถประกอบสำเร็จ โดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่ง ช.ม. ส่วนการสอบปากคำภรรยา และลูกชายนายวัฒนา ให้การเบื้องต้นว่า ไม่รู้เห็น เพราะปกติ นายวัฒนา มีนิสัยชอบซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ จึงไม่ทันสังเกต ว่าประกอบวัตถุระเบิด