เจ้าหน้าที่พบผ้าโบราณวัดวังตะวันตกเหลือ 74 ชิ้น-กล่องบรรจุพระคัมภีร์พบเพิ่มเติมรวม 13 กล่อง ส่วนผ้ายกทองผืนเอกของเจ้าจอมมารดาปรางยังหายไร้ร่องรอย-เจ้าอาวาสฝากให้สำนักศิลปากร 12 จัดเก็บรักษาไว้ก่อนแล้ว
เมื่อ 23 มิ.ย.60 เป็นวันที่สองที่นายอาณัฐ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 12 นำเจ้าหน้าที่โบราณคดีและเจ้าหน้าที่หอสมุดแห่งชาติ เข้าตรวจสอบนับจำนวนและคัดแยกประเภทผ้าโบราณอายุกว่า 200 ปีภายในหอไตรอินทสุวรรณ วัดวังตะวันตก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นการตรวจสอบทรัพย์สินครั้งใหญ่ของวัดหลังจากเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมสามเณรปลื้ม หรือศุภโชค เอกเกียรติกุล แล้วโบกปูนฝังดินภายในวัดจนนำไปสู่การจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ และนำไปสู่การตรวจสอบทรัพย์สินของวัดครั้งใหญ่จนพบว่าเงินกว่า 40 ล้านบาทได้สูญหายไปจากบัญชี รวมทั้งทรัพย์สินประเภทโบราณวัตถุอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการตรวจสอบภายในหอไตรอินทสุวรรณ เจ้าหน้าที่ได้เร่งค้นหาวัตถุโบราณ ผ้าโบราณ ที่มีหลักฐานสามารถเทียบเคียงได้จำนวนหนึ่ง
และเมื่อรวบรวมจนแล้วเสร็จปรากฏว่ามีผ้าในกลุ่มผ้าห่อพระคัมภีร์เหลืออยู่เพียง 74 ผืน ส่วนกล่องไม้ลงรักปิดทอง และกล่องไม้ลายรดน้ำ พบว่าถูกเคลื่อนย้ายไปเก็บบนกุฏิอดีตเจ้าอาวาสรวม 10 กล่องภายในบรรจุพระคัมภีร์ภาษาขอมโบราณ และพบอยู่ในศาลาการเปรียญอีก 3 กล่อง ซึ่งอยู่ในระหว่างการเทียบเคียงกับภาพเดิม โดยวัตถุโบราณที่พบทั้งหมดนั้นจะถูกส่งมอบให้สำนักศิลปากร 12 เก็บรักษาไว้ก่อนจนกว่าจะบูรณะอาคารให้แล้วเสร็จและมีระบบจัดเก็บที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ
ส่วนผ้าผืนเอกซึ่งเป็นผ้ายกทอง งานหัตถกรรมชั้นสูงซึ่งเป็นของเจ้าจอมมารดาปราง ชายาในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเป็นเจ้าจอมมารดาในเจ้าพระยานครน้อย ผู้อุปถัมภ์วัดวังตะวันตก ตั้งแต่เมื่อราว 200 ปีก่อน โดยผ้าผืนนี้ยังสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยโดยเจ้าหน้าที่ได้พบกลุ่มผู้ต้องสงสัยในส่วนเกี่ยวข้องของการสูญหายแล้ว ขณะที่พระครูพรหมเขตคณารักษ์ ได้ทำหนังสือมอบอำนาจ ให้กับทนายความเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในเบื้องต้นแล้ว
นายอาณัฐ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการการสำนักศิลปากร 12 เปิดเผยว่าเจ้าจอมมารดาปรางนับเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของนครศรีธรรมราช และในยุคกรุงธนบุรี โดยเจ้าพระยานครน้อยได้จัดสร้างเรือนเจ้าจอมขึ้นในวังที่ประทับของเจ้าจอม ปัจจุบันคือวัดวังตะวันออก และอดีตวัดวังตะวันตกเคยเป็นป่าช้าค้างศพมาก่อน เจ้าจอมมารดาปรางได้มีดำริเลิกป่าช้าแล้วนำมาสร้างเป็นอุทยาน หลังจากที่สิ้นชีพิตักสัย เจ้าพระยานครน้อยได้ยกที่ดินวังเดิมปวารณาให้เป็นวัดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันหลงเหลือทรัพย์สินเมื่อครั้งโบราณหลายรายการเช่นเตียงนอน ที่เป็นเครื่องบรรณาการจากเจ้าเมืองปัตตานี รวมทั้งผ้าโบราณซึ่งเป็นของเจ้าจอม และวัตถุโบราณหลายชิ้น
สำหรับผ้าโบราณชิ้นที่หายไปนั้นเป็นผ้ายกทอง คือผ้าที่มีเส้นด้ายทองสอดใส่อยู่ในผืนผ้าเป็นงานประณีตศิลป์ชั้นสูงในเชิงช่างทอผ้า ซึ่งผ้าประเภทนี้ในสมัยโบราณเป็นเครื่องอุปโภคสำหรับบุคคลชั้นสูงศักดิ์เท่านั้น
เมื่อ 23 มิ.ย.60 เป็นวันที่สองที่นายอาณัฐ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 12 นำเจ้าหน้าที่โบราณคดีและเจ้าหน้าที่หอสมุดแห่งชาติ เข้าตรวจสอบนับจำนวนและคัดแยกประเภทผ้าโบราณอายุกว่า 200 ปีภายในหอไตรอินทสุวรรณ วัดวังตะวันตก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นการตรวจสอบทรัพย์สินครั้งใหญ่ของวัดหลังจากเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมสามเณรปลื้ม หรือศุภโชค เอกเกียรติกุล แล้วโบกปูนฝังดินภายในวัดจนนำไปสู่การจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ และนำไปสู่การตรวจสอบทรัพย์สินของวัดครั้งใหญ่จนพบว่าเงินกว่า 40 ล้านบาทได้สูญหายไปจากบัญชี รวมทั้งทรัพย์สินประเภทโบราณวัตถุอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการตรวจสอบภายในหอไตรอินทสุวรรณ เจ้าหน้าที่ได้เร่งค้นหาวัตถุโบราณ ผ้าโบราณ ที่มีหลักฐานสามารถเทียบเคียงได้จำนวนหนึ่ง
และเมื่อรวบรวมจนแล้วเสร็จปรากฏว่ามีผ้าในกลุ่มผ้าห่อพระคัมภีร์เหลืออยู่เพียง 74 ผืน ส่วนกล่องไม้ลงรักปิดทอง และกล่องไม้ลายรดน้ำ พบว่าถูกเคลื่อนย้ายไปเก็บบนกุฏิอดีตเจ้าอาวาสรวม 10 กล่องภายในบรรจุพระคัมภีร์ภาษาขอมโบราณ และพบอยู่ในศาลาการเปรียญอีก 3 กล่อง ซึ่งอยู่ในระหว่างการเทียบเคียงกับภาพเดิม โดยวัตถุโบราณที่พบทั้งหมดนั้นจะถูกส่งมอบให้สำนักศิลปากร 12 เก็บรักษาไว้ก่อนจนกว่าจะบูรณะอาคารให้แล้วเสร็จและมีระบบจัดเก็บที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ
ส่วนผ้าผืนเอกซึ่งเป็นผ้ายกทอง งานหัตถกรรมชั้นสูงซึ่งเป็นของเจ้าจอมมารดาปราง ชายาในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเป็นเจ้าจอมมารดาในเจ้าพระยานครน้อย ผู้อุปถัมภ์วัดวังตะวันตก ตั้งแต่เมื่อราว 200 ปีก่อน โดยผ้าผืนนี้ยังสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยโดยเจ้าหน้าที่ได้พบกลุ่มผู้ต้องสงสัยในส่วนเกี่ยวข้องของการสูญหายแล้ว ขณะที่พระครูพรหมเขตคณารักษ์ ได้ทำหนังสือมอบอำนาจ ให้กับทนายความเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในเบื้องต้นแล้ว
นายอาณัฐ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการการสำนักศิลปากร 12 เปิดเผยว่าเจ้าจอมมารดาปรางนับเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของนครศรีธรรมราช และในยุคกรุงธนบุรี โดยเจ้าพระยานครน้อยได้จัดสร้างเรือนเจ้าจอมขึ้นในวังที่ประทับของเจ้าจอม ปัจจุบันคือวัดวังตะวันออก และอดีตวัดวังตะวันตกเคยเป็นป่าช้าค้างศพมาก่อน เจ้าจอมมารดาปรางได้มีดำริเลิกป่าช้าแล้วนำมาสร้างเป็นอุทยาน หลังจากที่สิ้นชีพิตักสัย เจ้าพระยานครน้อยได้ยกที่ดินวังเดิมปวารณาให้เป็นวัดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันหลงเหลือทรัพย์สินเมื่อครั้งโบราณหลายรายการเช่นเตียงนอน ที่เป็นเครื่องบรรณาการจากเจ้าเมืองปัตตานี รวมทั้งผ้าโบราณซึ่งเป็นของเจ้าจอม และวัตถุโบราณหลายชิ้น
สำหรับผ้าโบราณชิ้นที่หายไปนั้นเป็นผ้ายกทอง คือผ้าที่มีเส้นด้ายทองสอดใส่อยู่ในผืนผ้าเป็นงานประณีตศิลป์ชั้นสูงในเชิงช่างทอผ้า ซึ่งผ้าประเภทนี้ในสมัยโบราณเป็นเครื่องอุปโภคสำหรับบุคคลชั้นสูงศักดิ์เท่านั้น