มติสนช.ผ่านร่างพ.ร.บ.ศาลปกครองฯ ปะทะคารม “กล้าณรงค์-สมเจตน์”วาระดำรงตำแหน่งปธ.ศาลฯ ทำเพื่อคนๆเดียว สุดท้ายถอนคำพูด ชงนับวันกฎหมายมีผลบังคับใช้ ยันแก้ตามหลักสุจริต-ไม่รอนสิทธิ์ ที่รัฐสภา ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานประชุม มีมติเอกฉันท์ด้วยคะแนน 173 งดออกเสียง 5 เสียง ให้ร่างพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่...) พ.ศ. ...เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป ทั้งนี้สมาชิกสนช.ได้พิจารณาในประเด็นการนับวาระดำรงตำแหน่งของประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งตามกฎหมายจัดตั้งศาลปกครองฯเดิมดำรงตำแหน่งได้ถึงอายุ 70 ปี แต่ในร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดใหม่ให้ดำรงตำแหน่ง 4 ปีโดยเริ่มนับตั้งแต่ร่างกฎหมายประกาศใช้ โดยพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสนช.ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย กล่าวว่า การแก้ไขครั้งนี้เป็นการต่ออายุให้ประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งเป็นการทำเพื่อคนคนเดียว ถือว่าไม่เป็นประโยชน์สาธารณะ ดังนั้น สนช.ต้องใช้ดุลยพินิจให้ดี ทำอะไรไปต้องรับผิดชอบ ขณะที่พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ กรรมาธิการ ชี้แจงว่า ในกมธ.เห็นตรงกันว่าควรให้ประธานศาลปกครองสูงสุดดำรงตำแหน่ง 4 ปีและควรจะนับวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะตามร่างฯนับตั้งแต่วันโปรดเกล้าฯ ขณะเดียวกันมีสมาชิกสนช. 2 คนคือนพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ และนายตวง อันทะไชย ได้แปรญัตติให้นับวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้ เพราะเห็นว่าเดิมไม่มีกำหนดวาระไว้ คือประธานศาลปกครองสูงสุดอยู่ได้จนอายุครบ 70 ปี ครั้งเมื่อกำหนดวาระให้อยู่เพียง 4 ปี จึงไม่ควรรอนสิทธิ์ เพราะประธานศาลฯได้ถอยมาแล้วหนึ่งก้าว จากที่เคยอยู่ได้ 70 ปี มาเหลือ 4 ปี หากจะให้ถอยอีกเห็นว่าไม่เป็นธรรม ดังนั้นจึงเห็นควรให้มีวาระ 4 ปีเต็ม ไม่ใช่นำเวลาที่บริหารปีกว่าก่อนหน้านี้มานับรวมด้วย อย่างไรก็ตามถ้าเห็นด้วยตามที่กมธ.เสียงข้างมากก็จะให้ความเป็นธรรมไม่ใช่สุดซอย และยืนยันว่าเป็นการพิจารณาด้วยเหตุผล ไม่ได้ยึดตัวบุคคล ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการอภิปรายของพล.อ.สมเจตน์ที่ระบุว่าการต่ออายุให้ประธานศาลปกครองสูงสุดเป็นการทำเพื่อคนคนเดียว ทำให้นายกล้านรงค์ จันทิก ในฐานะกมธ.เสียงข้างมาก ไม่พอใจ พร้อมกับกล่าวว่า ช่วงที่พล.อ.สมเจตน์อภิปราย เกือบจะลุกขึ้นประท้วงเพราะอภิปรายขัดกับข้อบังคับว่าการแก้ไขของกมธ.เป็นการแก้ไขเพื่อเอื้อผลประโยชน์ ไม่สุจริต ยืนยันว่าตลอดระยะเวลาการทำงานของตนไม่เคยใช้หลักนี้ จุดยืนคือไม่เห็นด้วยที่ออกกฎหมายใหม่แล้วมีผลย้อนหลัง เดิมที่ประธานศาลปกครองฯไม่มีวาระดำรงตำแหน่งสามารถอยู่ได้ถึง 70 ปี หรืออยู่ได้ถึงปี 2565 ซึ่งตนเห็นด้วย ทั้งนี้ หากอยู่ตามที่กมธ.แก้ไขเพิ่มเติมจะอยู่ได้ถึงปี 2564 ถ้าอยู่ตามร่างกฎหมายเดิมอยู่ได้ถึงปี 2563 แตกต่างเพียงแค่ 2-3 ปี อย่างไรก็ตาม การอภิปรายของพล.อ.สมเจตน์มีลักษณะใส่ร้ายเสียดสี ว่าการแก้ไขของกมธ.ไม่สุจริต เพื่อผลประโยชน์ และอาศัยความชอบพอ ตนไม่เห็นด้วย ทำให้พล.อ.สมเจตน์ ขอถอนคำพูดเพราะไม่ได้เจตนาจะกล่าวหากมธ. แต่ก็มีบางคำที่ตนไม่ได้อภิปรายเช่นกัน จากนั้นกมธ.เสียงข้างมากทยอยลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุนให้เริ่มนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของประธานศาลปกครองสูงสุด ตั้งแต่กฎหมายประกาศใช้ กระทั่งที่ประชุมสนช.ลงมติเห็นชอบยืนตามที่กมธ.ฯแก้ไข ด้วยคะแนน 140 ต่อ 32 งดออกเสียง 8 เสียง