เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 มิ.ย. 60 พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พ.ท.พงศกร แสงกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 ได้เดินทางมาเยี่ยมเจ้าหน้าที่ทหาร ชุด ฉก.นราธิวาส 30 จำนวน 12 นาย และ ด.ญ.พัทธนัจท์ หะยีสะแลแม อายุ 2 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดที่ริมถนนเลียบคลองชลประทาน เขตรอยต่อระหว่าง ม.5 กับ ม.8 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 23 มิ.ย. 60 ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารกำลังนั่งรถยนต์ FTS เพื่อเดินทางไปสับเปลี่ยนกำลัง ส่วนนายอับดุลอายิ และ ด.ญ.พัทธนัรท์ 2 พ่อลูกกำลังนั่งรถยนต์ผ่านมา โดย พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เยี่ยมให้กำลังใจพร้อมนำถุงพระราชทานและมอบเงินช่วยเหลือพร้อมกระเช้าให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 13 ราย ที่ยังคงนอนพักรักษาตัวที่ รพ.สุไหงโกลก โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย ประกอบด้วย สิบเอกโกวิท จิตรตั้งทรัพย์ ซึ่งนอนรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอ.ซี.ยู. สิบโทณัฐพล นวสุจินดา พลทหารศิวเดช คังคะโน และเด็กหญิงพัทธนัรท์ หะยีสะแลแม อายุ 2ปี ซึ่งถูกลูกหลงขณะนั่งรถยนต์เก๋งมากับนายอับดุลอายิ หะยีสะแลแม ซึ่งเป็นบิดาผ่านมา ซึ่งภาพรวมผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 13 รายอาการปลอดภัยแล้ว นอกจากนี้ พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เปิดเผยฝากถึงกลุ่มคนร้ายที่ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารจนชาวบ้านถูกลูกหลงไปด้วย โดยเฉพาะเด็กหญิงเพียงวัย 2 ขวบ ท่านรู้สึกอย่างไรเมื่อเป็นพี่น้องของตัวเอง แล้วบอกว่าสยามเป็นของคนมลายูแล้วคนที่โดนก็เป็นมลายูเหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่มีสยามไม่มีมลายู เพราะคนที่ทำผมไม่เรียกว่าคน แต่ผมเรียกเป็นฝูง แล้วฝูงพวกนี้ไม่ชอบสุนัขแต่ชอบทำตัวเหมือนสุนัข ซึ่งคนโบราณบอกว่าไม่ชอบสิ่งใดจะได้สิ่งนั้น เพราะฉะนั้นให้เขาคิดเอาเองว่า พวกลูกเด็กเล็กแดงที่เขาไม่รู้เรื่องต้องมาดูที่โรงพยาบาล แม่เขาดูแลลูกทั้งๆที่เขาไม่รู้เรื่องเลย แต่ทหารก็ไม่ค่อยเท่าไรอย่างที่เขาว่า สู้กับคนขี้ขลาดเขาสู้ยากเพราะเหตุที่เกิดขึ้นก็ต้องรับผิดชอบด้วยกัน ถึงแม้คุณจะหนีอยู่ที่ไหนก็ตามผมก็ต้องอยู่ หากผมเกษียณหรือย้ายไปที่อื่นคนใหม่ก็ต้องมาเพราะฉะนั้นคุณหนีก็หนีไปเรื่อยๆ 10 หรือ 20 ปี คุณก็หนีไป