"มหาดไทย" สั่งพ่อเมืองทั่วประเทศสนองพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงแนะนำให้น้อมนำพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในเรื่องการสร้างเด็กดีมีคุณธรรม ไปเป็นแนวทางในการบ่มเพาะเยาวชนของชาติให้ต่อเนื่อง ภายใต้กลไกประชารัฐ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแนวทางการศึกษาของเด็กและเยาวชนให้ผู้เกี่ยวข้องกับการศึกษาได้ร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เรื่อง การศึกษาและการสร้างคนดี มีคุณธรรม โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ น้อมนำพระราชกระแสไปยึดถือปฏิบัติหลายแห่ง ตัวอย่างเช่น เมื่อคราวประชุมร่วมองคมนตรี 3 ท่าน ประกอบด้วย พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์เกษม วัฒนชัย และพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ กับผู้บริหารของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ทีผ่านมา ซึ่งได้น้อมนำพระราชกระแสสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง การศึกษา มาแจ้งให้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการทราบและถือปฏิบัติ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการน้อมนำพระบรมราโชบาย เกี่ยวกับการศึกษาอบรมเด็กนักเรียนและเยาวชนโดยให้เน้นการสร้างคนดี มีคุณธรรม มีการศึกษาดี ไปสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน กระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ได้ร่วมน้อมนำพระบรมราโชวาท พระบรมราโชบาย และพระราชกระแสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับการศึกษาและการสร้างคนดีมีคุณธรรม โดยมุ่งเน้นบ่มเพาะไปที่เด็กนักเรียนและเยาวชนทั้งในและนอกระบบโรงเรียนหรือสถานศึกษา ให้เด็ก เยาวชนเป็นคนดีควบคู่การมีคุณธรรม โดยให้ทุกจังหวัดกำหนดยุทธศาสตร์และทิศทางการศึกษา น้อมนำพระบรมราโชบายไปสู่การขับเคลื่อนปฏิบัติให้บรรลุผลเป็นรูปธรรม โดยให้พิจารณาใช้กลไกของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ในการขับเคลื่อนแบบบูรณาการร่วมกันในลักษณะ “ประชารัฐ” ภายใต้โครงการต่าง ๆ อาทิ การจัดค่ายคนรุ่นใหม่ใฝ่ค่านิยม ค่ายคุณธรรมจริยธรรม การจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเพื่อน การคัดเลือกและจัดกิจกรรมยกย่องผู้ประพฤติตนชอบด้วยความซื่อสัตย์สุจริต การประกวดสื่อสร้างสรรค์ต่าง ๆ และการจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วมระหว่างบ้าน วัด และโรงเรียน หรือ “บวร” เป็นต้น นายกฤษฎา กล่าวว่า นอกจากนี้ ให้ผู้ว่าฯ มอบหมายรองผู้ว่าฯ และหัวหน้าส่วนราชการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเยี่ยมเยียนสถานศึกษาทุกแห่งในพื้นที่ตามความเหมาะสม เพื่อถ่ายทอดนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินการขับเคลื่อนตามพระบรมราโชบายดังกล่าว และเน้นการปลูกฝังค่านิยมอันดีงามแก่เด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาจัดกิจกรรม เช่น การพบปะพูดคุยหน้าเสาธง หรือในสถานที่อื่นที่เหมาะสมของสถานศึกษา เพื่อมุ่งหวังให้เด็กนักเรียนและเยาวชนได้ซึมซับและตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา ซึ่งนอกจากจะทำให้เด็ก เยาวชน และนักเรียนเป็นคนเก่งแล้ว ยังต้องมุ่งเน้นให้เป็นคนดีควบคู่คุณธรรมและความมีระเบียบวินัย รู้จักการเคารพสิทธิในการอยู่ร่วมกันของคนหมู่มากด้วย เช่น ฝึกการเข้าแถวซื้ออาหาร การผลัดเปลี่ยนเวรทำความสะอาดห้องเรียน การเข้าแถวต่อคิวในการใช้บริการห้องสมุด เป็นต้น นายกฤษฎา กล่าวว่า การใช้ “กลไกประชารัฐ” ในพื้นที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งเป้าหมายสำคัญของการศึกษามิใช่เพียงแค่การผลิตผู้มีความรู้ความสามารถเท่านั้น แต่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันสร้างเด็กและเยาวชนของชาติให้เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณธรรม และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เคารพและปฏิบัติตามกฎหมายของบ้านเมือง เคารพในสิทธิผู้อื่น รู้หน้าที่ และมีความสมัครสมานสามัคคี เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยของเราให้เกิดความยั่งยืนต่อไป