จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด 3 จุด ในตัวเมืองปัตตานี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 30 ราย เหตุเกิดเวลา 23.00 น. ของเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยจุดแรกที่บริเวณห้องน้ำด้านข้างลานจอดรถเซาท์เทิร์นผับ โรงแรมเซาท์เทิร์นวิว หมู่ 3 ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี ไม่มีผู้บาดเจ็บ แต่ตัวโรงแรมและรถยนต์จำนวนไม่น้อยได้รับความเสียหายทีเดียว ต่อเรื่องนี้นายเอกชัย โลจนาภิวัฒน์ เจ้าของโรงแรมเซาท์เทิรน์วิว เปิดเผยถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นว่า น่าจะเป็นหลักสิบล้านบาททีเดียว จากห้องพักทั้งหมด 87 ห้อง เสียหายไป 70 ห้อง รวมถึงห้องประชุม 6 ห้องเสียหายหมด หรือไม่ว่าจะเป็นล็อบบี้ คอฟฟี่ช็อปที่เสียหาย 100% ส่วนห้องอาหารมี 2 จุด จุดหนึ่งเสียหาย 50% และอีกจุดเสียหาย 30% ขณะที่ห้องคาราโอเกะ และผับเสียหาออยู่ที่ 30% โดยคาดว่าทั้งหมดนี้น่าจะใช้เวลา 6 เดือนอย่างน้อยในซ่อมแซมและฟื้นฟูให้กลับมาเปิดดำเนินการได้ตามปกติ โดยขณะนี้ลูกค้าที่จองงานล่วงหน้ามากับทางโรงแรม ก็มีการดำเนินการแจ้งคืนเงินมัดจำไปแล้ว ส่วนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบก็มีการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ และตนเองก็ได้ช่วยไปบ้างบางส่วน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ได้มีการจัดทำประกันภัยคุ้มครองตัวโรงแรมและลูกค้าไว้หรือไม่ นายเอกชัย กล่าวตอบว่า ไม่ได้ซื้อเอาไว้ เนื่องจากไม่ได้ทำการต่อสัญญาหรือหาซื้อประกันภัยไว้กับบริษัทประกันฯรายไหน หลังจาก 3 ปีที่แล้วได้ซื้อเอาไว้เพราะทางโรงแรมเป็นลูกค้าใช้สินเชื่อไว้กับธนาคารกรุงไทย ทางธนาคารก็ได้มีการจัดทำประกันภัยคุ้มครองไว้ โดยจ่ายเบี้ยปีละหลายแสนบาท ต่อมาตนเองเห็นว่าไม่คุ้ม เพราะมาคำนวณเรื่องเบี้ยประกันกับทุนเอาประกันที่จะได้รับแล้วเมื่อเกิดความเสียหายไม่คุ้ม พอเกิดเหตุ อีกอย่างหนึ่งเพื่อนของตนเองที่ทำธุรกิจอื่นๆก็เคยเกิดประสบการณ์ไม่ดีกับเรื่องประกันภัยมาอยู่แล้ว เวลาจ่าย เขาจะจ่ายไม่เต็มบ้าง หรือไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ก็เลยตัดสินใจไม่ทำประกัน อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เท่าที่ทราบมีจำนวนรถยนต์ที่เสียหายจากเหตุคาร์บอมบ์ครั้งนี้จำนวนทั้งสิ้น 13 คัน ซึ่งบางรายเจ้าของรถยนต์ยังงงๆและตกใจ ไม่เข้ามาแจ้งเคลมกับบริษัทประกันภัย บางรายก็ยืมรถเพื่อนมาขับบ้าง จึงทำให้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีประกันภัยรถยนต์ไว้กับบริษัทประกันฯรายไหนบ้าง แต่เท่าที่ทราบจากบริษัทประกันภัยขณะนี้มี 2 คันด้วยกัน คือรถเชฟโรเลตของนายเอกชัย โลจนภิวัฒน์ ทะเบียน 4 กฌ3778 ทะเบียนกทม.ได้จัดทำประกันภัยไว้กับบริษัทกรุงเทพประกันภัย โดยรถของนายเอกชัยจอดห่างไม่น่าจะเกิน 10 เมตร ซึ่งต่อท้ายกับรถคันระเบิดที่เหลือแต่ซากเท่านั้น และอีกคันหนึ่งคือรถกระบะอีซูซุ สีส้มทะเบียน กก.1441 ที่จอดฝั่งตรงข้ามของโรงแรม โดยได้จัดทำประกันภัยคุ้มครองรถยนต์ไว้กับบริษัทเมืองไทยประกันภัย ซึ่งทั้งสองคันดังกล่าวจะได้รับความคุ้มครองภัยก่อการร้ายทั้งคู่ อนึ่ง สำหรับประวัติโรงแรมที่เกิดคาร์บอมบ์ดังกล่าวเดิมเป็นโครงการที่พ่อของนายเอกชัยได้เข้าไปซื้อต่อมาจากโครงการของหมู่บ้านซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2540 พอดีเกิดฟองสบู่แตก ก็ปล่อยทิ้งร้างไว้ ต่อมาพ่อของนายเอกชัยได้ตัดสินใจเข้าไปเทคโอเวอร์ และลงทุนตกแต่งไปมาเฉียด100 ล้านบาท สร้างขึ้นมาจนเป็นโรงแรมรองรับการให้บริการลูกค้า โดยเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2548 หานับระยะเวลารวมแล้วจนถึงวันนี้ที่เกิดเสียหายก็ตกร่วม 11 ปีพอดี