“บิ๊กตู่” ย้ำ พูดคุยสันติสุข เราต้องเป็นผู้กำหนด ในฐานะ “รัฐ” ชี้ยิ่งมีเหตุรุนแรง ยิ่งคุยไม่ได้ ฮึ่ม!!ใช้กฎหมายต่อไป แย้มพอรู้ตัวคนบิดเบือน เรื่องศาสนา-การศึกษา-รธน.แล้ว เมื่อวันที่ 25 ส.ค. เวลา 11.40 น. ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีจะให้เจ้าหน้าไปหารือถึงการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้หรือไม่ ว่า “คุยกัน เราเป็นรัฐ เราต้องเป็นคนกำหนด โดยกำหนดว่าจะคุยเมื่อไหร่ เรื่องอะไร” จากนั้นผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะเลื่อนวันจากวันที่ 2 ก.ย. ออกไปหรือไม่ โดยนายกฯ กล่าวย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า “วันนี้วันที่เท่าไหร่ ต้องรอก่อน เดี๋ยวก็รู้เอง” ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นายกฯให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆเสร็จก็รีบขึ้นรถไปทันที แต่เมื่อรถได้เคลื่อนตัวเพียงนิดเดียวก็เปิดประตูรถลงมาอธิบายและให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า “ยังไงมันก็ต้องพูดกัน คุยกันก็ต้องมีการยินยอมพร้อมใจกันทั้ง 2 ฝ่าย อย่ากดดันกันขอแค่นั้น ถ้ายิ่งมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น มันก็ยิ่งคุยกันไม่ได้ เพราะหลักการเหตุผลของการพูดคุยคือเพื่อยุติความรุนแรง ฉะนั้นอย่าไปขยายความ เพราะยิ่งแรงก็ยิ่งพูดไม่ได้ ก็ต้องใช้กฎหมายกันต่อไป” เมื่อถามว่า เหตุคาร์บอมเกิดจากอะไร เพราะทุกครั้งที่จะมีการพูดคุยก็เกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่เกี่ยว เรื่องนี้มีคนไปบิดเบือน เรื่องศาสนาด้วย อะไรด้วยตอนช่วงนี้ พอรู้ตัวว่าใคร ศาสนามั่ง การศึกษามั่ง รวมถึงเรื่องรัฐธรรมนูญ ซึ่งทราบจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่มารายงานว่ามีการตรวจสอบพบรัฐธรรมนูญปลอมที่เผยแพร่ออกไป ซึ่งคำว่าปลอมเรากำลังหาอยู่ ที่เขียนในมาตราที่เกี่ยวกับศาสนา รัฐธรรมนูญเขียนว่าศาสนาพุทธและศาสนาอื่นๆ แต่มีการตัดศาสนาอื่นออก” ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปว่านี่คือเรื่องการเมืองใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่รู้สิ การบ้านมั้ง จะรู้ไหมเล่า ยังหาคนทำอยู่”