วันที่ 25 ส.ค.59 เวลา 07.00 น. พลตรี กิตติศักดิ์ แม้นเหมือน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ลำปาง ได้สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 32 จำนวนกว่า 50 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสริมงาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเสริมงาม เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายของกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ อ.เสริมงาม ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิผลเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุกป่าในพื้นที่ อ.เสริมงาม และเกี่ยวข้องกับเครือข่ายมือปืนรับจ้าง ที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีดำของทหาร โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้อำนาจตามความในมาตรา 44 เข้าตรวจสอบ และค้นบ้าน 2 จุด ซึ่งจุดแรกที่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 2 บ้านปงแพ่ง ต.เสริมขวา อ.เสริมงาม ซึ่งเป็นบ้านของ นายธีระศักดิ์ สุภาสอน ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านปงแพ่ง จากการตรวจค้นบ้านพบอาวุธปืนลูกซอง จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน 5 นัด และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนแก๊ป) จำนวน 1 กระบอก ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดอาวุธปืน และจับกุมตามกฏหมายในข้อหามีอาวุธปืน และเครื่องกระมุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และผิดกฎหมาย และจุดที่ 2 ที่นำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 2 บ้านปงแพ่ง ต.เสริมขวา อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ซึ่งเป็นบ้านของ นายอำนวย ใจลังกา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเสริมขวา โดยจากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ไม่พบอาวุธปืนของทางราชการ ที่ นายอำนวย ยืมมาใช้งาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารได้ให้ไปติดตามเอาปืนกระบอกดังกล่าวมา และให้นำไปรายงาน และแสดงต่อนายทะเบียนอำเภอเสริมงามภายใน 7 วัน แต่ไม่ได้มีการจับกุม หรือควบคุมตัว นายอำนาย แต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ร่วมกับหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ลำปาง 5 (แม่กึ๊ด) เข้าจับพิกัด และตรวจยึดพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติแม่เรียง เขตบ้านปงแพ่ง หมู่ 2 ต.เสริมขวา อ.เสริมงาม หลังพบว่า พื้นที่ป่าสงวนดังกล่าวเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ กระจายใน 20 แปลง ถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่บุกรุก และล้อมรั้วยึดครองไว้เป็นของตนเอง บางแปลงก็ถูกแพ้วถางปลูกมันสำปะหลัง อย่างไรก็ตามในวันนี้ หลังทำการตรวจค้นบ้านเป้าหมายแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมอาวุธครบมือ ยังคงมีการวางกำลังตรึงในพื้นที่ไว้ในวันนี้ตลอดทั้งวัน และยาวไปจนถึงกลางคืน เนื่องจากจะยังคงมีการเข้าค้นบ้าน และพื้นที่เป้าหมายในพื้นที่ อ.เสริมงาม อีก เพราะพื้นที่ อ.เสริมงาม ที่ผ่านมา มีการพบกระทำผิดกฏหมาย โดยเฉพาะการครอบครองอาวุธปืนเถื่อน และการลักลอบตัดไม้ออกมา และก็เคยเกิดกรณีชาวบ้านร่วมตัวออกมาชุมนุมล้อมกดดันสถานที่ราชการ และเจ้าหน้าที่ให้ปล่อยตัวผู้กระทำผิดมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้น จึงต้องมีการวางกำลังไว้ในพื้นที่ เพื่อตรวจค้นรถต้องสงสัย และดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่