เมื่อสัปดาห์ก่อน "มาดามแป้ง"นวลพรรณ ล่ำซำ หญิงเหล็กวงการลูกหนังเมืองไทย สร้างความฮือฮาด้วยการตั้ง"ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย คุมทัพ"สิงห์เจ้าท่า"การท่าเรือ เอฟซี สู้ศึกไทยลีกเลก2 นับเป็นการกลับคืนวงการฟุตบอลอีกครั้ง ของ ซิโก้ หลังจากถูกสมาคมฟุตบอลยกเลิกสัญญาการทำทีมชาติไทยตั้งแต่เดือนมีนาคม หลังจากแยกทางกับสมาคมฟุตบอล ซิโก้ ได้ออกมาประกาศจุดยืนจะไม่เข้าคุมสโมสรใดทั้งในไทยและเทศ แม้ว่ามีข่าวหลายสโมสรให้ความสนใจก็ตาม กระทั่งล่าสุด ตัดสินใจเข้าคุมทีม การท่าเรือ เอฟซี เป็นข่าวฮือฮาไปทั่ววงการยุทธจักรลูกหนังไทย การเปิดตัว ซิโก้ ไม่มีการเปิดเผยเรื่องสัญญาว่าจ้าง แต่นัยว่าจะได้ค่าวิชาเป็น 7 หลักขึ้น เจ้าตัวประกาศหลังเข้าคุมทีมว่าจะให้ลูกทีมเล่นสไตล์ดุดันเหมือนที่เคยใช้กับทีมชาติไทย พร้อมจะทำให้แพต สเคเดี้ยมเป็นนรกสำหรับทีมเยือน และตั้งเป้าจบฤดูกาลด้วยเลขตัวเดียว ซิโก้ นั้นเคยคุมทีมระดับสโมสรบอลอาชีพในประเทศ และเคยไปคุมสโมสรฮอง อันยาลาย ของเวียดนามอยู่พักใหญ่ ผลงานการทำทีมสโมสรในประเทศโดยรวมถือว่าพื้นๆ ไม่เคยมีผลงานเปรี้ยงปร้างเป็นที่ยอมรับของยุทธจักรลูกหนังไทย ส่วนการคุมฮอง อันยาลาย พาทีมได้รองแชมป์ ในช่วงที่ทีมฟุตบอลชาติไทยประสบความล้มเหลว ผลงานย่ำแย่ในหลายทัวร์นาเมนท์ทั้งระดับเอเชียและอาเซียน โดยเฉพาะกีฬาซีเกมส์ และ ชิงแชมป์อาเซียน ผลงานทีมชาติไทยล้มเหลวอย่างสิ้นศักดิ์ศรี สร้างความเสื่อมศรัทธาให้แฟนบอลอย่างมาก แฟนบอลถึงขั้นขึ้นป้ายขับไล่"บังยี"วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลในขณะนั้น ให้ลาออกเปิดโอกาสให้คนอื่นที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำหน้าที "บังยี"ได้แก้สถานการณ์ด้วยการแต่งตั้ง ซิโก้ ให้เข้าคุมทีมชาติไทยแทน วินฟรีด เชเฟอร์ เมื่อปี 2013 ว่ากันว่าในจังหวะที่ ซิโก้ เข้ามคุมทีมชาติไทยในขณะนั้น เป็นช่วงที่ฟุตบอลไทยลีกกำลังเริ่มแข็งแกร่งจากการทุ่มเททำทีมอย่างจริงจังแบบมืออาชีพของบรรดาสโมสรต่างๆ ส่งผลให้นักฟุตบอลแต่ละสโมสรมีการยกระดับพัฒนามาตรฐานแข็งแกร่งจากการถูกเคี่ยวฝึกซ้อมอย่างหนัก พร้อมเต็มร้อยในการเลือกตัวมาใช้งาน บอลไทยสามารถกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้สำเร็จชนิดที่เรียกว่าเหมากวาดแชมป์ในอาเซียนมาครองได้ทุกรายการที่มีแข่ง อย่างไรก็ตาม บรรดาเกจิในวงการมองว่า ซิโก้ ค่อนข้างเฮงที่เข้ามาถูกที่ถูกเวลา ช่วงที่บอลลีกไทยกำลังขาขึ้นสุดๆ พอดี ใครมาทำทีมก็ได้แชมป์ ประมาณนั้น การกลับคืนสู่วงการอีกครั้งของซิโก้ จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือว่า “ของจริง”หรือ “ของปลอม” การเป็นโค้ชระดับสโมสรกับทีมชาตินั้นแตกต่างกันมาก ในทีมชาติจะมีนักฟุตบอลฝีเท้าดีให้เลือกใช้งานในตำแหน่งที่วางแทคติกไว้ ตรงกันข้ามกับนักฟุตบอลในระดับสโมสร จะมีนักเตะตัวเก่งๆไว้ใช้งานที่จำกัด และต้องกรำศึกหนัก มีปัจจัยหลายอย่างในการทำทีมเพื่อยืนหยัดสู้กับสโมสรต่างๆกันยาวทั้งฤดูกาล งานนี้จึงเป็นเรื่องท้าทาย อย่างมากและจะเป็นบทพิสูจน์ว่าเขาจะเป็นยอดกุนซือมือทองสมองเพชรของวงการฟุตบอลไทยจริงแท้แค่ไหน ผลงานการท่าเรือ เอฟซี จะเป็นผู้ให้คำตอบ