"มัลลิกา"เสนอ "บิ๊กตู่" ใช้ม.44 ยกเลิกนำเข้าข้าวสาลี หลังเกษตรกรเดือดร้อนหลายแสนราย เมื่อเวลา 11.20 น.วันที่ 28 มิ.ย.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอยกเลิกการนำเข้าข้าวสาลีเพื่อช่วยเกษตรกรโดยนางมัลลิกา กล่าวว่า จากกรณีรัฐปล่อยนำเข้าข้าวสาลีที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2557 ที่มีการนำเข้าเพียง 5.93 แสนตัน ปี 2558 นำเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 3.46 ล้านตัน ปี 2559 มีการนำเข้าสูงถึง 5 ล้านตัน ซึ่งผลกระทบจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นทำให้กระทบต่อราคาของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และราคามันเส้นปรับตัวลดลง จนกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดมากกว่า 4.5 แสนครัวเรือน และมันสำปะหลังประมาณ 5.2 แสนครัวเรือน นอกจากนี้ยังพบว่ามีการนำเข้ากากข้าวโพดเหลือจากการทำเอทานอลเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีการลดการซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศลดลง และกระทบต่อราคาที่เกษตรกรจะขายได้ ดังนั้น หากเราไม่ยกเลิกการนำเข้าข้าวสาลี จะทำให้ราคาของผลผลิตทั้งข้าวโพดและมันสำปะหลังตกต่ำไม่คุ้มทุน เพราะพ่อค้าคนกลางที่ไปรับซื้อเพื่อมาส่งขายให้กับบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์เหล่านี้จะไม่สามารถซื้อในราคาที่ยกระดับแพงขึ้นได้ เพราะผู้ผลิตอาหารสัตว์จะไม่ซื้อผลผลิตในประเทศ แต่จะใช้วิธีการเพิ่มการนำเข้าแทน ซึ่งหากรัฐไม่เข้ามาดูแลจะทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน "มาตรการแก้ไขคือกรมการค้าภายในต้องนำวาระเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณายกเลิกการนำเข้าข้าวสาลี แต่หากวิธีการตามปกตินี้ยังมีขั้นตอนที่อาจไม่ทันสถานการณ์วิกฤตของราคาพืชผลหรือไม่ทันฤดูกาลที่ผลผลิตกำลังจะเตรียมออก จึงขอเสนอนายกฯให้ใช้มาตรา 44 ยกเลิกการนำเข้าข้าวสาลีเพื่อจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรได้ดีที่สุด" นางมัลลิกากล่าว