วันที่ 29 มิ.ย.60 นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ(กมธ.)ด้านกลไกในการปราบปรามการทุจริต กมธ.วิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงการดำเนินการฟ้องเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานไทย จำกัด และผู้ร่วมกระทำความผิดร่วมกันทุกคนที่ทำให้รัฐและผู้ถือหุ้นรายย่อยเสียหาย กรณีปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำผิดกฎหมายและข้อสัญญาที่ก่อหรือเอื้อประโยชน์ให้เอกชนได้รับผลประโยชน์เกินกว่าที่สัญญาระบุไว้และเกิดความเสียหาย อันเป็นการใช้อำนาจที่ขัดต่อกฎหมายและสัญญาที่กำหนดว่าจะต้องจ่ายรายได้ส่วนแบ่งให้ ทอท.15% และเจ้าหน้าที่การท่าฯต้องเรียกเก็บให้ครบตามสัญญา 15% จากยอดการขายสินค้าหรือการบริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อให้ศาลฯได้พิจารณาคดีลงโทษ และบอกเลิกสัญญาให้บริษัทคิงพาวเวอร์ชดใช้ค่าเสียหาย นายชาญชัย กล่าวต่อว่า เรื่องดังกล่าวมีการทำผิดมาเป็นเวลานานสิบปี จึงต้องแบ่งคำฟ้องไม่น้อยกว่า 5 คดี โดยคดีแรกที่จะฟ้องมีเจ้าหน้าที่ถูกฟ้องกว่า 20 คน โดยมีผู้บริหารระดับสูงของทอท.ในขณะที่เกิดเหตุรวมถึงผู้บริหารทอท.ในขณะนี้รวมอยู่ด้วย ทั้งหมดจะพยายามทำให้เสร็จภายในเดือนกรกฎาคมไม่เกินเดือนสิงหาคม โดยจะมีการนำเสนอเอกสารที่ชัดเจนเพื่อให้ศาลฯเห็นว่าเจ้าหน้าที่ทำผิดอย่างไร และขอเตือนคนที่จะไปเป็นพยานว่าอย่าให้การเท็จเพราะจะถูกดำเนินคดี โดยจะส่งคำฟ้องไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจว่าจะปลดผู้บริหาร ทอท.คนใด แค่ท่านอ่านหนังสือไม่ถึงสิบหน้าก็จะทราบเรื่องทั้งหมด และฝากไปถึงบริษัทคิงพาวเวอร์ว่าทำมาหากินบนที่หลวงคือที่ราชพัสดุใช้สิทธิชื่อประเทศไทยและสิทธิในการครอบครองพื้นที่ที่ภาษีอากรของประเทศหมดเป็นแสนล้านต้องตรวจสอบได้ อย่าฟ้องปิดปากหรือข่มขู่สื่อมวลชน ซึ่งในส่วนที่บริษัทคิงพาวเวอร์ฟ้องตน 10 คดีนั้นตนจะฟ้องกลับไป 11 คดี โดยได้เริ่มฟ้องไปแล้ว 1 คดี “รัฐมนตรีหลายคนมีส่วนทำผิดด้วย เช่น รมว.คลัง และ รมว.คมนาคม เพราะเคยทำหนังสือแจ้งไปแล้ว แต่นั่งเป็นสากกะเบือไม่ดำเนินการใด ๆ ปล่อยให้โกงทุกวัน ซึ่งผมเห็นว่าควรเป็นจำเลย โดยทีมกฎหมายกำลังตัดสินใจว่าจะดำเนินคดีหรือจะให้เป็นพยาน ผมเห็นว่าควรเอารัฐมนตรีเหล่านี้ออกจากรัฐบาล ไม่เช่นนั้นจะเจอศึกหนักในการขุดคุ้ยเพราะเขาจะไม่ทนกับพวกท่านแล้ว รัฐบาลทำตัวไปสู่หายนะเองแต่อย่าทำให้ประเทศชาติเสียหายด้วย ซึ่งผมจะแถลงอีกครั้งหลังจากฝ่ายกฎหมายได้ข้อสรุป ผมยืนยันว่าไม่ย่อท้อในการตรวจสอบแม้จะมีภัยคุกคามก็ตาม อยากให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารด้วยเพราะทุกอย่างต้องให้จบในรัฐบาลชุดนี้ และทราบมาว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีโอนเรื่องให้นายสุวพันธุ์ ตันยุวัฒนะ รมว.ยุติธรรมแล้วก็เป็นเรื่องที่ดีที่เรื่องย้ายจากราหูไปจะได้ไม่มีการอมเอกสาร ” นายชาญชัย กล่าว