ด้วยความสวยงามของทะเลหมอกที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ จึงทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หลงไหลในธรรมชาติที่เต็มไปป่าไม้ทิวเขาเขียวขจี บรรยากาศสุดโรแมนติก ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกับ ศิริยุทธ สิริยุทธพงศ์ และพรลไดน์ สิริยุทธพงศ์ คู่สามีภรรยานักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ต้องมนต์เขาค้อ ตัดสินใจสร้างแกรนด์ กกกอด เขาค้อ รีสอร์ท รีสอร์ทระดับ 5 ดาวแห่งใหม่ บนพื้นที่ 12 ไร่ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ทุกห้องจะเห็นทะเลหมอก รวมถึงโลเกชั่นอันยอดเยี่ยม จากวิวสวยๆ แบบพาโนรามา ที่ความสูง 888 เมตรจากระดับน้ำทะเล เพิ่มสีสันให้การท่องเที่ยวเขาค้อ สำหรับ แกรนด์ กกกอด เขาค้อ รีสอร์ท แห่งนี้ นายศิริยุทธ สิริยุทธพงศ์ เจ้าของรีสอร์ท กล่าวว่า ได้เพิ่มสีสันให้การท่องเที่ยวเขาค้อด้วยการสร้างสกายวอล์กพื้นกระจกใส จนถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ เป็นจุดชมวิวที่ทำให้เห็นทัศนียภาพ 360 องศาของเขาค้อสวยที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวกันมากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเมืองรอง จังหวัดเพชรบูรณ์ เนื่องจากเขาค้อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มากันได้ทุกฤดูกาล มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ซึ่ง อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในฤดูร้อนจะอยู่ที่ 20-29 องศาเซลเซียส ฤดูฝน 18-29 องศา ฤดูหนาวอุณหภูมิจะไม่เกิน 20 องศา ต่ำสุดแตะเลขตัวเดียว โดยรีสอร์ทแห่งนี้ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ลอท์ฟ ที่หรูหรา พร้อมนำประสบการณ์การเข้าพักโรงแรมต่างๆ มาปรับใช้ในการออกแบบให้ได้ประโยชน์ใช้สอยครบถ้วนและมีความสวยงาม อีกทั้งลงทุนพัฒนาระบบไฟฟ้าและน้ำในรีสอร์ทให้มีประสิทธิภาพที่สุด เพราะเขาค้อมีปัญหาไฟตก ไฟดับ และเรื่องคุณภาพน้ำ ตั้ซึ่งงใจให้นักท่องเที่ยวที่มาเข้าพักประทับใจ เพราะ จากการสำรวจที่พักในเขาค้อมีราคาสูงอันดับต้นๆ ของไทย ฉะนั้น มาพักผ่อนที่นี่จึงต้องคุ้มค่า ซึ่ง นายศิริยุทธ กล่าวถึงแรงบันดาลใจ ของชื่อแกรนด์ กกกอด เขาค้อ ว่า ต้องการสื่อถึงความรัก ความผูกพัน ความอบอุ่น โดยไม่ได้โฟกัสเพียงคู่รัก จะมาแบบครอบครัว เพื่อนฝูง หรือมาเที่ยวกับคนที่เรารัก หรือแม้แต่คนโสดมาก็มาได้ เพราะอยู่ในอ้อมกอดธรรมชาติ ทั้งนี้ในช่วงเดือนตุลาคมจะเปิดบริการห้องพักแบบวิลลา สไตล์ ลอท์ฟ คันทรี่ รองรับนักท่องเที่ยวหน้าไฮซีซั่นประมาณเดือนตุลาคม ถึงเดือนมีนาคม ปัจจุบันมีห้องพักให้บริการ 20 ห้อง โดยทุกห้องเป็นเตียง King Size ทั้งหมด ประกอบด้วย Executive Suite จำนวน 4 ห้อง เป็นห้องพักขนาดใหญ่พื้นที่ 90 ตารางเมตร มีห้องเซานาส่วนตัว เพิ่มความผ่อนคลาย ส่วน Grand Deluxe Room มี 8 ห้อง และ Deluxe Room จำนวน 8 ห้อง โดยห้องไซส์เล็กที่สุด 42.5 ตารางเมตร ทุกๆ ห้องสะดวกสบาย ออกแบบตกแต่งที่สามารถถ่ายภาพได้สวยงามทุกมุม คุมโทนด้วยสีดำ น้ำตาล ขณะที่ล็อบบี้กว้างขวาง สำหรับเดินเล่น นั่งพักผ่อน มีมุมร้านกาแฟ 80.8.8 (Eighty-Eight-Eight) เครื่องดื่มร้อน-เย็น สั่งได้ ภายในรีสอร์ทมีสวนเวอร์บีนาบานสะพรั่ง กลีบดอกสีม่วงอ่อนเพิ่มความสดชื่น ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ขณะที่ มุมยอดนิยม อยู่ที่สกายวอล์กทางเดินลอยฟ้า เป็นแลนด์มาร์คชมทะเลหมอกยามเช้า ดื่มด่ำแสงแรกของวันใหม่ หรือจะเฝ้ารอดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าหลังเทือกเขาเพชรบูรณ์แบบชิลชิล ก่อนจะไปเติมพลังกันที่ห้องอาหารลอยฟ้า แกรนด์ เขาค้อ รูฟท็อป บาร์ แอนด์ เรสเตอรองท์ บนความสูง 900 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีทั้งอาหารไทยรสจัดจ้าน หรืออาหารฝรั่ง ในสไตล์ เชฟต๋อง-วรพงศ์ แตงทอง ที่คัดสรรวัตถุดิบในท้องถิ่นเขาค้อมารังสรรค์เมนูคุณภาพและสดใหม่ อีกทั้งจากรีสอร์ทจะเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ก็ไม่ไกลกันนัก อย่างเช่น พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองของเขาค้อ หรือจะขับรถไปทุ่งกังหันลมบ้านเพชรดำ (โครงการทุ่งกังหันลมเขาค้อ) ก็ห่างไปไม่ถึง 10 กิโลเมตร ที่นี่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพกับทุ่งกันหันลมสวยๆ วิวเหมือนเมืองนอก เป็นกังหันลมที่สูง 100 เมตร 24 ต้น ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง แล้วยังมีลานต้นสน เปิดขายสินค้าชนเผ่า ผลผลิตเกษตรกร ด้านในมีทุ่งดอกไม้นานาชนิด ค่าเข้าชมคนละ 10 บาท นอกจากนี้ยังมีบริการเล่นรถล้อเลื่อนฟอร์มูลาม้ง และนั่งชิงช้าชาวเขาชมวิวชื่นใจ มีเวลาเหลือเฟือไปต่อที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว สถานที่สุดมงคลและสอนปฏิบัติการเจริญสติปัฏฐาน 4 วัดนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงธรรมชาติสงบงดงาม มาเพชรบูรณ์ต้องห้ามพลาด ดังนั้นการเดินทางไปท่องเที่ยวเขาค้อ จึงไม่ต้องรอถึงหน้าหนาว เพราะสามารถเที่ยวได้ทุกฤดู ที่สำคัญการได้ไปนอนชมหมอกแนบชิดธรรมชาติที่ แกรนด์ กกกอด เขาค้อ รีสอร์ท ถือว่าเป็นที่สุดของการพักผ่อนจริงๆ โดยเฉพาะเวลานี้มีโปรโมชั่นพิเศษวันธรรมดา (วันอาทิตย์-วันพฤหัสฯ) ลด 70% โปรโมชั่นวันหยุด (วันศุกร์-วันเสาร์) ลด 65% คลิกดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ www.GrandKokKodKhaokho.com