นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ในเวลานี้อุตสาหกรรมการบินเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสายการบินราคาประหยัด ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การเดินทางของคนทั่วโลก จึงทำให้มีความต้องการบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน ที่มีความรู้ความสามารถเข้าสู่ธุรกิจ รวมทั้งช่างอากาศยานหรือ Aircraft Mechanic เพื่อรองรับแผนการขยายตัวของบริษัท ซึ่งปัจจุบันไทยแอร์เอเชียมีพนักงานในส่วนของการซ่อมบำรุงอากาศยานทั้งหมด 321 คน แบ่งเป็น วิศวกรอากาศยาน 105 คน และ ช่างอากาศยาน 216 คน กำกับดูแลเครื่องบินแอร์บัส เอ320 จำนวน 54 ลำ ซึ่งเป้าหมายเครื่องบินครบ 58 ลำ ณ สิ้นปี 2560 โดยสายการบินตั้งเป้าเพิ่มจำนวนช่างอากาศยานอีกประมาณ 100 คน ภายใน 3 ปี ทั้งนี้ที่ผ่านมา สายการบินได้เปิดรับสมัครช่างอากาศยานที่จบการศึกษาจากที่ต่างๆ แต่คุณสมบัติของผู้สมัครยังไม่ตรงและเพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นสายการบินจึงได้วางแผนร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ซึ่งเป็นสถาบันที่จัดการเรียนการสอนในหลักสูตรช่างอากาศยานตามมาตรฐานขององค์กรความปลอดภัยแห่งสหภาพยุโรปหรือ EASA อยู่แล้ว และบริษัทบางกอกเอวิเอชั่นเซ็นเตอร์ จำกัด (บีเอซี) ซึ่งเป็นสถาบันที่เปิดสอนด้านอากาศยานชั้นนำเข้ามาเติมเต็มทางด้านภาคปฏิบัติ ผลิตช่างอากาศยานที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและมีคุณสมบัติตรงตามที่สายการบินไทยแอร์เอเชียตั้งเป้าหมายไว้อย่างสมบูรณ์ ซึ่ง ดร.สาธิต พุทธชัยยงค์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ กล่าวถึงความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า มหาวิทยาลัย มียุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากรด้านซ่อมบำรุงอากาศยาน อย่างชัดเจน ได้จัดตั้งสถาบันการบินแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพขึ้นโดยได้รับการรับรองเป็นศูนย์ฝึกอบรมช่างอากาศยานตามมาตรฐาน EASA PART 147 ก่อนเปิดหลักสูตรฝึกอบรมช่างอากาศยานตามมาตรฐาน EASA PART 66 CAT B 1.1 ขึ้นเมื่อต้นปี 2559 แต่ก็ยังไม่สามารถผลิตช่างอากาศยานออกสู่ภาคอุตสาหกรรมได้เพียงพอต่อความต้องการในอุตสาหกรรม ดังนั้นหลักสูตรช่างอากาศยาน จึงนับเป็นหลักสูตรที่ 2 ของสถาบันการบินแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ปัจจุบันประเทศที่มีศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานในภูมิภาคนี้ คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐสิงคโปร์ และสหพันธ์รัฐมาเลเซีย ซึ่งทั้งสามประเทศนี้ได้มีการพัฒนาบุคลากรด้านซ่อมบำรุงอากาศยานมาก่อนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทย มีสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินได้ให้ข้อมูลว่า เฉพาะภูมิภาคเอเซียยังคงมีความต้องการบุคลากรด้านการบิน การควบคุมจราจรทางอากาศและรวมถึงฝ่ายช่างอากาศยานภาคพื้นกว่า 40,000 อัตรา ด้าน นาวาอากาศโท ปิยะ ตรีกาลนนท์ ประธานกรรมการฝ่ายบริหาร บริษัทบางกอกเอวิเอชั่นเซ็นเตอร์ จำกัด (บีเอซี) กล่าวถึงความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า เป็นการจัดอบรมและจัดการเรียนการสอนด้านช่างอากาศยานหลักสูตรแรกของบีเอซี ซึ่งเป็นโรงเรียนการบินเอกชน แห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดสอนหลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรี ตลอดหลักสูตร ประกอบไปด้วย หลักสูตรนักบินส่วนบุคคล หลักสูตรการบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน หลักสูตรการบินด้วยเครื่องบินสองเครื่องยนต์ รวมไปถึงหลักสูตรนักบินพาณิชย์เอก การจัดการหลักสูตรที่ผ่านมาทำให้ บีเอซี มีความเชี่ยวชาญทางด้านเครื่องบินสูงและมีช่างอากาศยานเพื่อดูแลเครื่องบินที่ใช้สอนให้กับนักศึกษาในหลักสูตร การเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาหลักสูตรช่างอากาศยานดังกล่าว นักศึกษาในหลักสูตรจะได้เข้ามาเรียนรู้การดูแลซ่อมบำรุงรักษาเครื่องบินจริงกับช่างอากาศยานของบีเอซี สำหรับ หลักสูตรช่างอากาศยาน (Student Aircraft Mechanic) เป็นหลักสูตรระยะสั้นใช้ระยะเวลาในการเรียน 1 ปี โดยรับสมัครผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือ ปวส. ในสาขาช่างยนต์ หรือช่างไฟฟ้า หรือช่างอิเล็กทรอนิกส์เข้าศึกษา ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าศึกษาในหลักสูตร จะเข้ารับการอบรมทักษะด้านงานซ่อมบำรุงอากาศยานพื้นฐาน ณ สถาบันการบินแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพเป็นระยะเวลา 6 เดือน หลังจากนั้นจะเรียนในภาคปฏิบัติกับบีเอซีเป็นระยะเวลา 3 เดือน ก่อนจะเข้าไปเรียนรู้ขั้นตอนและฝึกการปฏิบัติจริงหน้างาน ณ สายการบินไทยแอร์เอเชียเป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งในระหว่างการเรียนนักศึกษาจะได้รับเงินเดือนจากไทยแอร์เอเชียเสมือนเป็นพนักงานของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและยื่นใบสมัครได้แล้วผ่าน www.airasia.com/recruitment ตั้งแต่วันนี้-31 กรกฎาคม 2560 เพื่อผ่านขั้นตอนการคัดเลือก และเปิดภาคการศึกษาในวันที่ 16 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป