เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ส.ค. 59 ร.ต.อ.มนตรี รัตนพันธุ์ รองสารวัตร สอบสวน สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถแก๊สพลิกคว่ำ และมีไฟลุกไหม้ เหตุเกิดบริเวณ ถ.หทัยราษฎร์ หมู่ 11 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรีบประสาน รถดับเพลิงจำนวน 5 คัน และรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คูคต และอาสาสมัครมูลนิธิร่มไทรลำลูกกา
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถบรรทุกแก๊ส 4 ล้อ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน บรรทุกแก๊สหุงต้มมาประมาณ 40 ถัง เกิดไฟลุกไหม้เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ ส่วนถังแก๊สพบว่าถูกไฟไหม้เสียหายกว่า 30 ใบ และพบว่ามีร่องรอยฉีกขาดจากแรงระเบิดตรวจสอบในที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่ามีรถประชาชนได้รับความเสียหายไฟไหม้หมดทั้งคัน จำนวน 4 คัน เป็นรถยนต์เก๋ง 7 ที่นั่ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 คัน,รถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นมาส สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ขน 3654 นครราชสีมา จำนวน 1 คัน และรถยนต์กระบะบรรทุกห้องเย็น ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1ฒ 2325 กทม. จำนวน 1 คัน และพบว่าที่พื้นถนนเป็นร่องรอยยุบและแตก เกิดจากแรงระเบิดของถังแก๊ส มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือนายสุขสรรค์ แดนปกกรต์ อายุ 33 ปี ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายถูกกระจกบาดตามลำตัว ขณะทุบกระจกรถเพื่อหนีตาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสายไหม
จากการสอบสวนนายวีระวัฒน์ จัตจันทร์ อายุ 32 ปี คนขับรถเก๋ง ให้การว่า ขณะนั้นตนเองขับรถเพื่อมุ่งไปตามหทัยราษฎร์ จังหวะนั้นเห็นว่ารถแก๊สเพิ่งลงจากสะพาน และเสียหลักพลิกตะแคงจนทำให้ถังแก๊สรถจากหลังรถจนเกิดประกายไฟและระเบิดตามอย่างต่อเนื่อง ขณะนั้นตนเองเห็นว่ามีไฟลุกไหม้ จึงรีบวิ่งหนีออกมาจากตัวรถเพื่อหนีตาม ส่วนคนอื่นก็เห็นว่าวิ่งหนีตายออกมาเช่นกัน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนคนขับรถบรรทุกแก๊ส เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระจกรถบาด ขณะทุบกระจกประตูรถเพื่อหนีตาย ให้การว่า ขณะขับรถเพื่อจะไปส่งแก๊สย่านหทัยราษฎร์ ขณะนั้นได้ขับรถลงมาจากสะพานแต่ยางล้อรถแตก จึงทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ถังแก๊สด้านหลังรถหล่นไถลกับพื้นถนนและเกิดประกายไฟ จึงทำให้เกิดการระเบิดจากนั้นได้ลุกลามไหม้ถังอื่นๆ และเกิดการระเบิดอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถประเมินความเสียหาย โชคดีที่คนขับหนีตายออกมาจากตัวรถได้ จึงไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น และได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด และจะได้สอบสวนคนขับรถและพยานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดต่อไป
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถบรรทุกแก๊ส 4 ล้อ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน บรรทุกแก๊สหุงต้มมาประมาณ 40 ถัง เกิดไฟลุกไหม้เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ ส่วนถังแก๊สพบว่าถูกไฟไหม้เสียหายกว่า 30 ใบ และพบว่ามีร่องรอยฉีกขาดจากแรงระเบิดตรวจสอบในที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่ามีรถประชาชนได้รับความเสียหายไฟไหม้หมดทั้งคัน จำนวน 4 คัน เป็นรถยนต์เก๋ง 7 ที่นั่ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 คัน,รถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นมาส สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ขน 3654 นครราชสีมา จำนวน 1 คัน และรถยนต์กระบะบรรทุกห้องเย็น ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1ฒ 2325 กทม. จำนวน 1 คัน และพบว่าที่พื้นถนนเป็นร่องรอยยุบและแตก เกิดจากแรงระเบิดของถังแก๊ส มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือนายสุขสรรค์ แดนปกกรต์ อายุ 33 ปี ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายถูกกระจกบาดตามลำตัว ขณะทุบกระจกรถเพื่อหนีตาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสายไหม
จากการสอบสวนนายวีระวัฒน์ จัตจันทร์ อายุ 32 ปี คนขับรถเก๋ง ให้การว่า ขณะนั้นตนเองขับรถเพื่อมุ่งไปตามหทัยราษฎร์ จังหวะนั้นเห็นว่ารถแก๊สเพิ่งลงจากสะพาน และเสียหลักพลิกตะแคงจนทำให้ถังแก๊สรถจากหลังรถจนเกิดประกายไฟและระเบิดตามอย่างต่อเนื่อง ขณะนั้นตนเองเห็นว่ามีไฟลุกไหม้ จึงรีบวิ่งหนีออกมาจากตัวรถเพื่อหนีตาม ส่วนคนอื่นก็เห็นว่าวิ่งหนีตายออกมาเช่นกัน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนคนขับรถบรรทุกแก๊ส เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระจกรถบาด ขณะทุบกระจกประตูรถเพื่อหนีตาย ให้การว่า ขณะขับรถเพื่อจะไปส่งแก๊สย่านหทัยราษฎร์ ขณะนั้นได้ขับรถลงมาจากสะพานแต่ยางล้อรถแตก จึงทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ถังแก๊สด้านหลังรถหล่นไถลกับพื้นถนนและเกิดประกายไฟ จึงทำให้เกิดการระเบิดจากนั้นได้ลุกลามไหม้ถังอื่นๆ และเกิดการระเบิดอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถประเมินความเสียหาย โชคดีที่คนขับหนีตายออกมาจากตัวรถได้ จึงไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น และได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด และจะได้สอบสวนคนขับรถและพยานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดต่อไป