เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 9 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.พนารัตน์ ไชยบูรณ์ อายุ 42 ปีผู้บริหาร บริษัท นิวฟู๊ด เทคโนโลยี่ จำกัด อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่บ้านเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-จรัลฯ 1 ถนนปากน้ำกระโจมทอง แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กทม.ว่าที่บ้านมีงูเหลือมโผล่มาจากชักโครกอาละวาดไม่เลิก ทั้งๆ ที่บ้านราคาหลังละเกือบ 10 ล้านบาท น่าจะอยู่ได้อย่างปลอดภัยกว่านี้ จึงไปตรวจสอบ น.ส.พนารัตน์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ12.00 น.ตนอยู่บ้านกับนายพงศกร หรือ กอล์ฟ ประดิษฐ์กนก อายุ 20 ปี ลูกชายคนโต ขณะที่ตนเข้าห้องน้ำชั้นล่างใต้บันไดเพื่อปลดทุกข์ ช่วงที่นั่งอยู่นั้นรู้สึกเจ็บแปล๊บที่ก้นเหมือนถูกอะไรกัด จึงรีบลุกขึ้นทันที ตนแทบช็อกเมื่อเห็นงูไม่ทราบชนิดตัวใหญ่ลายพร้อยยาวประมาณ 50 ซม.โผล่ออกมาจากชักโครกและพยายามจะเลื้อยขึ้นมา ตนรู้สึกตกใจมากแต่ก็ตั้งสติได้รีบปิดฝาชักโครกและเอาฝาถังน้ำทับไว้ทันที ระหว่างนั้นตนเจ็บแผลมากและมีเลือดไหลหยดเป็นทาง จึงรีบขับรถไปหาหมอที่โรงพยาบาลพญาไท 3 แต่เมื่อไปถึงหมอก็ไม่กล้าที่จะฉีดเซรุ่มกันพิษงูให้เพราะต้องรู้ชนิดของงูเสียก่อนจึงจะฉีดได้ โดยพบว่าบาดแผลเป็นรอยเขี้ยวขนาดประมาณ1ซม. บนและล่าง จำนวน12 เขี้ยวเหมือนรอยฟันกัดตนจึงโทรศัพท์กลับไปที่หมู่บ้านบอกให้รปภ.ของหมู่บ้านฯช่วยกันรื้อชักโครก เพื่อดูชนิดของงู เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง รปภ.ได้สกัดปูนยาแนวของฐานชักโครกออกแล้วยกชักโครกขึ้นก็พบกับงูเหลือมขนาดใหญ่ยาวประมาณ 2.5 เมตร จึงช่วยกันจับใส่กระสอบแล้วเรียกรถมูลนิธิฯให้มารับตัวไป เมื่อหมอรู้ว่าเป็นงูเหลือมที่มีฟันอันสกปรกมาก เพราะกินแต่ของเน่าเสีย อาจติดเชื้อได้ จึงฉีดยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อีกเสบ และยากันบาดทะยักให้ แล้วให้นอนรอดูอาการ 1 คืน เสียค่าใช้จ่ายไปประมาณ18,000 บาท ประกันฯออกให้บางส่วน หมอยังให้ไปล้างแผลอย่างต่อเนื่องและให้ไปฉีดยากันบาดทะยักอีก 2 เข็ม ห่างกันอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ปกติตนและคนในบ้านที่อยู่รวมกัน 6 ชีวิต รู้สึกหวาดผวาไม่กล้าเข้าห้องน้ำชั้นล่างอีกเลย จนกระทั่งกลางดึกวันที่ 9 ก.ค.น.ส.สุทธิพร หรือ น้องกิ๊ฟ ประดิษฐ์กนก อายุ 15 ปี ลูกสาวคนกลางเข้าไปล้างมือในอ่างห้องน้ำชั้นล่าง ก็พบหัวงูเหลือมขนาดใหญ่กว่าตัวเก่าโผล่อยู่ในชักโครกอีกครั้งและพยายามจะเลื้อยขึ้นมา ลูกสาวตกใจมากวิ่งร้องไห้ออกมาจากห้องน้ำ จนทำให้คนในบ้านพากันแตกตื่น ทางนายกนก ประดิษฐ์กนก อายุ 41 ปี สามี จึงรีบวิ่งไปดูและใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเอาไว้ได้ก่อนจะปิดฝาชักโครกเอาฝาถังน้ำทับเอาไว้เหมือนเดิม ส่วนน้องกิ๊ฟ ลูกสาวขวัญเสียร้องไห้ไม่หยุด และบอกว่าไม่กล้าอยู่บ้านนี้แล้ว ตนจึงให้น้องสาวมารับไปอยู่บ้านย่านซอยจรัลสนิทวงศ์ 37เป็นการชั่วคราวเพื่อปรับสภาพจิตใจ แล้วเรียกรปภ.มารื้อชักโครกอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบงูตัวดังกล่าว ขณะนี้ทุกคนยังไม่มั่นใจว่าใต้ชักโครกยังมีงูหลงเหลืออยู่อีกกี่ตัว และไม่รู้ว่าบ้านหลังนี้ปลูกทับรังงูหรือเปล่า ส่วนสาเหตุที่มีงูเหลือมเข้าไปอยู่ใต้ฐานชักโครกได้น่าจะมาจากบ้านเกือบทุกหลังในโครงการที่มีราคาตั้งแต่8-30 ล้าน นั้นใต้บ้านไม่ได้มีการถมดินให้เสมอคาน บางหลังมีพื้นดินห่างจากคานถึง 50 ซม.เป็นโพรงใหญ่ คนสามารถมุดเข้าไปได้เลย ซึ่งบ้านตนอยู่บนกำแพงปูน ด้านนอกเป็นลำประโดงกว้างประมาณ 2 เมตร ติดกันก็เป็นป่าหญ้ารกชัฏ.ทั้งงูเหลือและตัวเงินตัวทองก็สามารถปีนหรือมุดเข้ามาในหมู่บ้านและเข้าไปอยู่ใต้บ้านทุกหลังได้ไม่ยาก ซึ่งเมื่อประมาณต้นปี 60 ได้มีตัวเงินตัวทองปีนข้ามกำแพงเข้ามาในบ้านของตนครั้งหนึ่งแล้วสามีกับชาวบ้านช่วยกันใช้ไม้ไล่สุดท้ายมันวิ่งเข้าไปใต้บ้านฝั่งตรงข้ามที่มีโพรงให้บ้านสูง 50 ซม.แล้วหลบอยู่ในนั้นไม่ยอมออกมาเลย ซึ่งเจ้าของบ้านมีลูกวัย2ขวบอยู่ด้วย จึงไม่กล้าให้ลูกออกมาเล่นที่สนามหญ้าเลยเพราะเกรงว่าจะถูกตัวเงินตัวทองออกมาทำร้าย น.ส.พนารัตน์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้เรื่องราวของตนลือสะพัดไปเกือบทั่วหมู่บ้านแล้วทำให้หลายคนไม่กล้าเข้าห้องน้ำชั้นล่าง เพราะเกรงว่าจะเจอเหตุการณ์แบบตน จึงอยากให้ทางหมู่บ้านออกมารับผิดชอบโดยการเอาดินมาถมใต้บ้านให้เต็มไม่ใช่แค่เอาแผ่นปูนมาปักเพื่อเป็นการแก้ปัญหาแบบขอไปทีเพราะฝนตกเพียงไม่กี่ครั้งน้ำก็เซาะจนเกิดเป็นโพรงเหมือนเดิม ช่วงนี้แมวในหมู่บ้านจะมีเยอะมาก เนื่องจากแอบเข้าไปคลอดลูกกันใต้บ้านหลายหลัง ตนยอมเสียเงินซื้อบ้านหลังนี้เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ในราคา 6.5 ล้านบาท เพราะอยากได้ความสุขและสบายใจให้กับคนในบ้านกลับคืนมา และใช้งานพื้นที่ในบ้านได้เต็มทุกตารางนิ้ว แต่ตอนนี้ทุกคนในบ้านไม่กล้าเข้าห้องน้ำชั้นล่างและไม่กล้าเดินชายบ้านที่เป็นโพรง เพราะเกรงว่าจะมีสัตว์ร้ทนต่างๆ ที่ิาศัยอยู่ออกมาทำร้ายให้ได้รับอันตรายอีก