"ธรรมศาสตร์" คิดค้นแอพพลิเคชั่น"การตรวจคัดกรองโรคอัลไซเมอร์ และการรู้คิดบกพร่องเล็กน้อย อย่างอัตโนมัติด้วยเสียงพูด" สามารถใช้งานได้ผ่านสมาร์ทโฟน ทราบผลภายในครึ่งชั่วโมง โดยกำลังทดลองใช้งานจริงในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เบื้องตันพบว่าแอพพลิเคชั่นดังกล่าวมีความแม่นยำร้อยละ 99 แอพพลิเคชั่นดังกล่าว คิดค้นโดย รศ.ดร.จาตุรงค์ ตันติบัณฑิต อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (มธ.) เป็นหัวหน้าคณะผู้วิจัย ร่วมบูรณาการโดย พญ.โสฬพัทธ์ เหมรัญชโรจน์ จากภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ดร.จุฑามณี อ่อนสุวรรณภาควิชาภาษาอังกฤษและภาษาศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ และ ดร.กฤษณ์ โกสวัสดิ์ จากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) รศ.ดร.จาตุรงค์ เผยว่า อีกไม่ถึง 20 ปี ประเทศไทย จะกลายเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอด (super-aged society) โดยผู้สูงอายุจะมีสัดส่วนถึงร้อยละ 28 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งพบว่าผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 50-70 กำลังเผชิญกับโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's) สาเหตุของภาวะสมองเสื่อม บางรายไม่รู้ตัว ส่วนบางรายรู้ตัวช้า ซ้ำร้ายพบว่ารักษาไม่ได้แล้ว อันเกิดจากการตายของเซลล์สมองเร็วกว่าวัยอันควร ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลงและเป็นภาระต่อผู้ใกล้ชิดมากขึ้น ประกอบกับการคัดกรองโรคใช้เวลานาน และค่าใช้จ่ายสูง ตลอดจนการขาดแคลนของบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลห่างไกล สำหรับแอพพลิเคชั่น"การตรวจคัดกรองโรคอัลไซเมอร์และการรู้คิดบกพร่องเล็กน้อยอย่างอัตโนมัติด้วยเสียงพูด" นี้ผู้ที่เข้ารับการคัดกรองโรค จะต้องตอบคำถาม 21 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยคำถามดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเป็นภาษาไทย เหมาะกับบริบทของคนไทย ครอบคลุมทุกแง่มุม เช่น ด้านการรับรู้สภาวะรอบตัว (Orientation) เช่น ถามคำถามเรื่องเวลาและสถานที่ ณ ขณะนั้น, ด้านความตั้งใจและการคำนวณ เช่น การลบเลขทีถอยหลังทีละ 7, ด้านความจำ (Memory) เช่น บอกที่อยู่ บอกชื่อบุคคล, ด้านภาษา (Language) เช่น การบอกชื่อของสิ่งของ, ด้านความสามารถในการใช้ภาษาในการพูดอธิบาย (Verbal description ability) การเล่าเรื่องหรืออธิบายสถานการณ์จากภาพ เป็นต้น เมื่อตอบคำถามครบ เสียงพูดของผู้เข้ารับการคัดกรองจะถูกนำไปวิเคราะห์ ทั้งคุณลักษณะทางสัญญาณ เช่น ความถี่มูลฐาน, ความเข้ม, การหยุด, จังหวะในการพูด และวิเคราะห์คุณลักษณะการใช้คำประเภทของคำต่าง ๆ ในภาษาเช่น คำนาม, คำสรรพนาม, คำกริยา, คำวิเศษณ์ เป็นต้น จากนั้นแอพพลิเคชั่นจะประมวลผล 3 ระดับ คือผู้มีภาวะปกติ, ผู้มีภาวะความจำบกพร่องเล็กน้อย และผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้มาก จากเดิมใช้เวลาตรวจคัดกรองถึง 2-3 ชั่วโมง และมีความถูกต้องเพียงร้อยละ 70-90 ที่สำคัญประหยัดค่าใช้จ่ายในการตรวจ และประหยัดงบฯ โรงพยาบาลจากการซื้อเครื่องตรวจ ตลอดจนระยะเวลาในการตรวจที่กินเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ทำให้คณะวิจัย มุ่งมั่นพัฒนาระบบมีการประมวลผลที่รวดเร็ว และรองรับภาษาอื่น ๆ มากยิ่งขึ้น เพื่อให้การใช้งานมีความครอบคลุมและขยายผลสู่ผู้ป่วยกลุ่มอื่น อย่างไรก็ตาม แอปพลิเคชั่นนี้ถูกนำไปใช้งานคัดกรองโรคให้ผู้ป่วยจริงในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และพบว่ามีความแม่นยำถึงร้อยละ 99 และที่น่าภูมิใจคือผลงานนี้ไม่ใช่เพียงแค่สร้างคุณประโยชน์แก่วงการแพทย์ของไทยเท่านั้น แต่ยังได้รับรางวัลเหรียญทองเกียรติยศ จากการประกวดสิ่งประดิษฐ์ระดับโลก จากงานInternational Exhibition of Inventions of Geneva ครั้งที่ 45 ที่กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เมื่อเร็วๆ นี้ --------------------