จากกรณีเมื่อเวลา 11.20 น.ของวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมาได้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันรวด 21 คันระหว่างฝนตกถนนลื่น จุดเกิดเหตุบนถนนสายเพชรเกษมพัทลุง หาดใหญ่ฝั่งขาล่อง ท้องที่ ม.8 ต.เชาชัยสน อ.เขาชัยสน โดยที่เกิดเหตุพบมีรถยนต์ทั้งกระบะ รถยนต์เก๋ง รถบรรทุกหกล้อ สิบล้อ และรถบัสโดยสารชนท้ายกัน บางคันก็พลิกคว่ำหรือตกข้างทางไปชนกับต้นไม้ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 15 คน และสาหัส 2 คน ทั้งนี้คาดว่า ในพื้นที่มีอากาศร้อน และได้มีฝนตกลงมาราว 3 นาที พอทำให้ถนนลื่น ได้มีรถคันแรกที่ขับมาเกิดเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ริมทาง จนน้ำมันราดลงบนพื้นถนน และทำให้รถที่ขับตามหลังมา เกิดเบรกไม่ทัน จนเกิดชนท้ายทำให้รถได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ต่อเรื่องนี้ร.ต.อ.จีรเชษฐ์ เสริมแก้ว ร้อยเวรสภ.เขาชัยสน เปิดเผยว่า สาเหตุจากฝนตกถนนลื่น และรถขับด้วยความเร็ว จึงทำให้รถลื่นเสียหลัก โดยอุบัติเหตุจะเกิดเป็นช่วงๆ พอเกิดเหตุรถก็จอดลงมาดูกัน พอรถวิ่งตามมาก็ชนเสียบท้าย ซึ่งขณะนี้ได้สอบปากคำไปบ้างแล้ว โดยขณะนี้รถบางคันหรือเจ้าของรถบางรายยังไม่มารายงานตัว ก็ยังสรุปในเรื่องของการชดใช้ค่าเสียหายไม่ยุติ เพราะเกรงว่า เกิดมีการมารายงานตัวทีหลัง แล้วสรุปความเสียหายประกันไปก่อน ก็อาจจะส่งผลกระทบทำให้ต้องมารื้อคดีกันอีก อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าล่าสุดขณะนี้ก็มีการทยอยเรียกบริษัทประกันที่รับประกันรถที่เสียหายเข้ามาพูดคุยตกลงกันเบื้องต้นไปแล้ว โดยมีการรับข้อเสนอหลังจากมีการพูดคุยกันภายในระหว่างบริษัทประกันไปก่อน ส่วนบริษัทประกันฯที่ยังไม่พบ ก็คงจะต้องรอให้มารายงานตัว แล้วจึงค่อยหาข้อยุติกันอีก โดยเบื้องต้นต่างก็ทำบันทึกเรียกร้องกันไปบ้างแล้ว ซึ่งคงจะรอเรียกรวมทั้งหมด แล้วมากตกลงกันอีกที ด้านนายเฉลิมเกียรติ ทองตรา ผู้จัดการภาคใต้ กล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ถือเป็นอุบัติเหตุครั้งใหญ่ประวัติศาสตร์ของอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันใหญ่ที่สุดเท่าที่ตนเองเคยได้มีประสบการณ์ทำงานในพื้นที่ภาคใต้ก็ว่าได้ โดยย้อนหลังไปหลายสิบปีนานแล้วได้เคยเกิดเหตุบนถนนสายเอเชียที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีรถติดไฟแดงยาวถึง 18 คัน โดยรถที่ทำประกันไว้กับบริษัทวิริยะประกันภัยอยู่ๆขับมาด้วยความเร็ว ชนท้ายอย่างแรง จนเหมารถทั้ง 18 คันพังเสียหาย ซึ่งทางบริษัทวิริยะฯก็ต้องจ่ายชดใช้สินไหมไป แต่มาล่าสุดอุบัติเหตุชนกัน 21 คนรวดที่จ.พัทลุง ในส่วนของบริษัทวิริยะฯโดนไปจำนวน 4 คันด้วยกัน โดยแบ่งเป็นชุดแรกที่ชนกัน 6 คัน มีรถลูกค้าวิริยะฯรับเคราะห์ไป 2 คันเสียหาย โดยถูกรถของนำสินประกันภัยที่เป็นฝ่ายผิดและตำรวจปรับไปแล้วชน ซึ่งนำสินฯต้องรับผิดชอบทั้ง 5 คันในชุดแรกนี้ โดยเป็นรถฮอนด้าป้ายแดงทำประกันไว้กับวิริยะฯคันหน้าคันแรกที่ถูกชน 1 คัน ขณะนี้ได้นำรถเข้าซ่อมไปแล้ว แต่คาดว่า จะเสียหายทั้งคันหรือจ่ายคืนทุน(Total Loss)ให้กับลูกค้า ส่วนอีกคันรถของลูกค้าวิริยะฯที่เป็นคันสุดท้าย ซึ่งเสียหายพอสมควร และนำรถเข้าซ่อมไปแล้ว ส่วนคนเจ็บไม่เยอะเท่าไหร่ ส่วนอุบัติเหตุชุดที่ 2 ชุดนี้ก็ชนกัน 6 คันรวดเช่นกัน เนื่องจากคงจะจอดและลงมาดู พอรถวิ่งต่อๆกันมา ไม่เห็น ก็เกิดชน ประกอบกับมีปัญหาฝนตกหนักด้วย จึงทำให้มองไม่เห็น ซึ่งชุดที่สองนี้ยังมีปัญหาถกเถียงกันอยู่ว่า รถของใครผิดใครถูก โดยคงจะต้องมาพิสูจน์กันอยู่ เพราะคนขับรถคันสุดท้ายมาชน ก็ยังไม่รับ เพราะอ้างว่าเบรคไม่อยู่ เห็นรถเขาชนกันอยู่ ซึ่งก็คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและบริษัทประกันมานั่งพูดคุยกันและพิสูจน์ถูกผิดกันอีกครั้งหนึ่ง โดยรถของลูกค้าวิริยะฯก็เป็นหนึ่งคันในจำนวน 6 คันนี้ที่ได้รับความเสียหาย ส่วนอุบัติเหตุชุดที่สามที่เหลือ 9 คัน เป็นการเฉี่ยวชนกันนิดหน่อยๆ ไม่ได้รุนแรงเท่าใดนัก โดยเป็นรถทัวร์ของวิริยะประกันภัยที่ทำประกันชั้น 3 เอาไว้เป็นฝ่ายผิด แต่รถหรือทรัพย์สินที่เสียหายก็เสียหายประปราย ซึ่งจะมีหนักนิดหน่อยก็เป็นรถของทางกรมศิลปากร ทางวิริยะประกันภัยก็ได้ออกใบเหลือให้กับคู่กรณีเพื่อนำรถเข้าไปทำการซ่อมกับอู่เรียบร้อยแล้ว