วันที่ 17 ก.ค.60 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรู ปและ อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรู ปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์ กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงต้นเหตุที่มีการทุจริ ตเงินทอนวัด ว่า เกิดจากระบบการปกครองคณะสงฆ์ใช้ มาตั้งแต่ปี 2505 ทำให้พระภิกษุผู้ใหญ่ชั้ นปกครอง ทั้งสมเด็จและรองสมเด็จบางส่ วนมีอำนาจเสร็จเด็ดขาด หลงในลาภยศสรรเสริญ ใช้อำนาจโดยไม่โปร่งใส จนขยายแหล่งผลประโยชน์ ไปเอางบประมาณแผ่นดินมาใช้ ตามอำเภอใจ จนเรื่องแดงขึ้นมาถูกตรวจสอบจึ งได้รับผลกระทบอย่างหนัก แทนที่จะแก้ไขทำให้เรื่องนี้ โปร่งใส กลับพยายามข่มขู่ คุกคาม กดดันเจ้าหน้าที่ไม่ให้ตรวจสอบ แต่เพราะเป็นกระแสข่าวเงินทอนที่ พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศสนใจ ช้างตายทั้งตัวจะเอาใบบัวมาปิ ดคงจะไม่ได้ การเอาผิดคนที่กระทำผิดทั้งข้ าราชการสำนักพุทธและที่เป็ นพระภิกษุชั้นปกครอง ต้องทำอย่างจริงจัง ใครผิดก็ว่ากันตามกฎหมายอย่ างตรงไปตรงมา ทำให้เกิดความโปร่งใส ต้องเดินหน้าต่อไป ขณะนี้พุทธศาสนิกชนทั้งประเทศจึ งเรียกร้องให้มีการปฏิรู ปคณะสงฆ์กันขนานใหญ่ ประกอบกับได้รับการร้องเรี ยนจากเจ้าอาวาสวัดต่างจังหวั ดและพระภิกษุชั้นผู้น้อยที่ ทนไม่ได้ กับการปกครองคณะสงฆ์ทุกระดับชั้ นตาม พรบ คณะสงฆ์ ที่ใชัมาตั้งแต่ปี 2505 ในปัจจุบันมีการส่งพระภิกษุนั กวิ่งเต้น ข้ามเขตเข้าไปเป็นเจ้าอาวาส รักษาการเจ้าอาวาสหาประโยชน์ ในทางมิชอบ มีทั้งกดขี่ กลั่นแกล้งและมีการเรียก"เก็บส่ วย" กันทั้งประเทศ ล่าสุด เกิดขึ้นที่วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี จนพระชั้นผู้น้อยและเจ้าอาวาสวั ดต่างจังหวัด ทนระบบการปกครองรวบอำนาจ ซื้อขายตำแหน่งกันแบบนี้ไม่ได้ อีกต่อไป จึงมีพระภิกษุเรียกร้องให้ ตนยกร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฉบับใหม่ ปฏิรูปการปกครองคณะสงฆ์ ให้เป็นไปตามหลัก" ธรรมาธิปไตย" นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ร่างกฏหมายใหม่ให้ พระภิกษุแต่ละวัดแต่ละอำเภอแต่ ละจังหวัดเลือกพระภิกษุในวัด อำเภอหรือจังหวัดนั้นๆ จำนวน 5-10 รูปเป็นคณะสงฆ์วัด คณะปกครองสงฆ์อำเภอ และ คณะปกครองสงฆ์จังหวัด แทนให้พระภิกษุเพียงรูปเดียวมี อำนาจเสร็จเด็ตขาดอย่างปัจจุบัน และส่งตัวแทนจากคณะสงฆ์จังหวั ดไป เป็นคณะปกครองสงฆ์ส่วนกลางระดั บประเทศ เป็นระบบธรรมาธิปไตยให้ มหาเถรสมาคมเป็นคณะที่ปรึ กษาสมเด็จพระสังฆราชที่ทรงบั ญชาคณะปกครองสงฆ์ทั้งหมด โดยร่างกฏหมายใหม่นี้จะออกมาเพื่ อแก้ไขพระภิกษุชั้นปกครองตั้ งแต่ระดับ กรรมการ มส. ไล่ลงไปเจ้าคณะต่างๆที่ขณะนี้มี ปัญหาทั้งระบบ ส่วนใหญ่มีวัตรปฏิบัติ ที่ไม่อยู่ในพระธรรมวินัยเสี ยเอง แต่มีอำนาจเสร็จเด็ดขาด ปกปิดความผิด เอื้อประโยชน์ในทางมิชอบให้แก่ ตนเองและพระภิกษุไกล้ชิด กดขี่ข่มเหงเจ้าอาวาสวัดต่างจั งหวัดและพระชั้นผู้น้อย ไม่ให้มีปากมีเสียง จนทำให้คณะสงฆ์ทั้งหมดเกิ ดความเสียหาย สูญเสียศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนทั้ งประเทศ ซึ่งหากร่าง พรบ. คณะสงฆ์ ฉบับ "ธรรมาธิปไตย"ยกร่างเสร็จแล้ว จะส่งไปรับฟังความคิดเห็น เจ้าอาวาสวัดต่างๆและพระภิกษุชั้ นผู้น้อยทั้งประเทศ รวมทั้งพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป หากมีเสียงส่วนใหญ่สนับสนุ นและเห็นด้วย จะผลักดันให้เป็นกฏหมายใช้บังคั บต่อไป