เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 18 ก.ค.60 ที่ สน.มักกะสัน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.,พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.น.,พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ ผกก.สน.มักกะสัน แถลงผลการจับกุมเอเย่นต์เครือข่ายค้ากัญชาอัดแท่งรายใหญ่ผ่านพัสดุไปรษณีย์ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 ราย คือนายนาย วัฒนา หรือบาส เต่าไธสง อายุ 24 ปี หัวหน้าแก็ง ,นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี,นายอานนท์ หรือนนท์ พวงจำปี อายุ 25 ปี และนาย สหรัฐ หรือเฟริส ใจฉวะ อายุ 20 ปี พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งแบบ 1 กิโลกรัมและกัญชาอัดแท่งแบ่งขายตามน้ำหนักบรรจุอยู่ในกล่องพัสดุ กว่า 48 กล่อง รวมน้ำหนักกว่า 48 กิโลกรัม อุปกรณ์กล่องพัสดุหลายขนาดอีกกว่า100 ใบ และรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ท สีเทา หมายเลขทะเบียน ษฉ 4191 กรุงเทพมหานคร จับกุมผู้ต้องหาได้ที่ หน้าบริษัท 30 โพลส์ แอนด์ เปย์ เซอร์วิส ซอยเอกมัย 30 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนรับนำฝากส่งพัสดุไปรษณีย์ พล.ต.ท.ศานิตย์ เผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 17ก.ค.เจ้าหน้าที่บริษัท30 โพลส์ แอนด์ เปย์ เซอร์วิส ซึ่งเป็นบริษัทรับนำฝากพัสดุไปยังบริษัทไปรษณีย์ไทย ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทย สาขาถนนเพชรบุรีตัดใหม่ว่า พัสดุจำนวน 13 กล่องแรกที่นำมาฝาก ในชื่อ น.ส.รุ้งเพชร อยู่เจริญ(ชื่อและนามสกุลปลอม)ซึ่งมีลักษณะผิดปกติจึงได้ทำการแกะตรวจสอบกระทั่งพบว่าทั้งหมดเป็นกัญชาอัดแท่ง จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ โดยพนักงานของบริษัท30 โพลส์ แอนด์ เปย์ ยังได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาเดิมที่ใช้ชื่อ น.ส.รุ้งเพชร ซึ่งเป็นชื่อปลอมมาส่งพัสดุที่บริษัทเอกชนดังกล่าว อีกจำนวน 14 กล่อง โดยยังไม่ได้จ่ายค่าส่งเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบพบอีก 14 กล่องโดยทั้งหมดเป็นกัญชาอัดแท่งทั้งหมดจึงได้ทำการตรวจยึด พล.ต.ท.ศานิตย์ เผยต่อว่า ต่อมานายเอ(นาม สมมมุติ)อายุ 15 ปีซึ่งได้รับคำสั่งจากนาย วัฒนาให้มาทำการตรวจสอบสถานะของพัสดุทั้ง 2รอบจากบริษัทรับนำฝากเอกชนดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนดังกล่าวได้แจ้งไปว่า ยังไม่สามารถนำส่งอีก 14 กล่องที่เหลือได้เนื่องจากยังไม่ได้จ่ายค่าส่ง นายเอ จึงได้โทรหาผู้ต้องหานายวัฒนา ว่าของมีปัญหายังได้จ่ายเงินค่าส่งจนกระทั่งเวลาประมาณ 21.0 น.วันเดียวกัน 3 ผู้ต้องหาที่เหลือ คือ นาย วัฒนา นายอานนท์ และนาย สหรัฐ ได้ใช้รถของกลางคันดังกล่าวมาจอดยังหน้าบริษัทนำฝากพัสดุเอกชนเจ้าหน้าที่จึงทำการแสดงตัวเพื่อเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดไว้ได้ ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณท้ายรถคันดังกล่าวยังพบกล่องพัสดุจ่าหน้าผู้ส่งและผู้รับพร้อมนำส่งอีกจำนวน 21 กล่อง จึงได้นำตัวมาดำเนินคดีที่ สน.มักกะสัน โดยเจ้าหน้าหน้ายังเข้าทำการตรวจสอบที่พักของนาย วัฒนาพบกล่องพัสดุและอุปกรณ์อีกจำนวนมากอยู่ภายในห้อง และยังพบของกลางเพิ่มอีกจำนวน 0.5 กรัม พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อท้ายว่า อยากจะประชาสัมพันธ์ให้บริษัทเอกชนที่รับนำฝากพัสดุหรือบริษัทที่นำส่งซึ่งมีกันอย่างมากมายให้เข้มงวดกับการตรวจสอบเอกสารประจำตัวของผู้นำพัสดุมาส่งซึ่งผู้ไม่หวังดีใช้เป็นช่องทางส่งของผิดกฎหมายทั้งอาวุธปืน ระเบิดและยาเสพติดหนังจากนี้จะนำเรื่องนี้เข้าประชุมเพื่อให้ ผกก.แต่ละพื้นที่ทำหนังสือแจ้งไปยังบริษัทเหล่านี้ให้ขอความร่วมมือเพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านี้ใช้เป็นช่องทางการค้าสิ่งผิดกฎหมาย ด้าน พล.ต.ต.สุรชัย เปิดเผยว่า อย่างไรก็ดีจะได้ทำการตรวจสอบที่อยู่ผู้รับทั้งหมดและประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบและจับกุมอีกทั้งจะเร่งตรวจสอบถึงต้นตอที่มาของยาเสพติดล็อตดังกล่าวมาจากแหล่งยาเสพติดที่ใด เพื่อขยายผลจับผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป